น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 ของไทย ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น.เศษ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ แถลงในภายหลังว่า ในวาระพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมตรีเพื่อรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อรับใช้เบื้องพระยุคลบาท ถือเป็นเกียรติยศอันสูงสุดและเป็นมิ่งมงคลแก่ชีวิตอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ซึ่งตนเองและครอบครัวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่นับเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้พร้อมทุ่มเทและอุทิศตนเพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดินเพื่อประเทศชาติและประชาชน
"ดิฉันถือเป็นภาระอันยิ่งใหญ่ ที่ต้องการพลังจากทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันผลักดันให้ประเทศชาติของเรานั้นก้าวข้ามอุปสรรค และปัญหาต่างๆ เพื่อประกาศเกียรติยศศักดิ์ศรี ให้เป็นที่ประจักษ์และยอมรับของนานาประเทศในสากล"น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา ในเดือนธันวาคมนี้ ในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวันที่ 12 สิงหาคมปีนี้ นับเป็นวโรกาสพิเศษที่สำคัญยิ่งต่อพี่น้องคนไทยทุกคน จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมกันจัดงานถวายพระพร เพื่อแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแด่ล้นเกล้าล้นกระหม่อมทั้งสองพระองค์ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ทุกท่านโดยพร้อมเพรียงกัน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ อัญเชิญพระบรมราโชวาทบางตอนที่ได้พระราชทานแก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2532 “ประการที่สำคัญต้องพยายามใช้ความคิด ความเฉลียวฉลาดปรับปรุงตัว ปรับปรุงงานให้มีประสิทธิภาพเสมอ พร้อมทั้งพยายามประสานงาน ประสานประโยชน์ให้แก่ทุกคน และทุกฝ่ายที่สัมพันธ์เกี่ยวข้องด้วย โดยสอดคล้องทั่วถึงงานจึงจะสัมฤทธิ์ผล เป็นประโยชน์ที่พึงประสงค์คือ เป็นประโยชน์แก่งาน แก่ตัวผู้ปฏิบัติ แก่ส่วนรวม พร้อมทุกส่วน จึงขอให้บัณฑิตนำสิ่งที่พูดนี้ ไปพิจารณาให้เข้าใจ เพื่อใช้เป็นแนวทางต่อไป"
"ดิฉันได้น้อมนำมาเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม และจะใช้เป็นแนวทางในการทำงานเพื่อผลักดันงานต่างๆ ของรัฐบาลต่อไป ดิฉันขอปวารณาตนที่จะนำความรู้ความสามารถ และสติปัญญา ทุ่มเททำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และตั้งใจอย่างเต็มที่ เพื่อนำพาประเทศของเราไปสู่ความสงบสุข ความสามัคคีปรองดอง มีเจตนารมณ์แน่วแน่ที่จะเข้ามาทำงาน เพื่อแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน"น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย กล่าวว่า ตระหนักดีถึงความเป็นผู้หญิงที่ก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายและเกิดความคาดหวังอย่างมาก แต่เชื่อว่าจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน ในทางตรงกันข้ามจะใช้ความเป็นผู้หญิงที่มีความเข้มแข็งที่ควบคู่กับความอ่อนโยน การรับฟังปัญหาทรรศนะที่แตกต่างจะช่วยให้มองเห็นทางเลือกใหม่ๆ ในการแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น
ท้ายที่สุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขอบคุณพี่น้องประชาชน ถือเป็นพันธสัญญาทางใจในการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินด้วยความภาคภูมิใจ โดยจะมุ่งมั่นใช้ความรู้ความสามารถทุ่มเททำงานเพื่อสร้างสุขสลายทุกข์ให้กับพี่น้องประชาชนอย่างสุดความสามารถ โดยจะไม่ทำเพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่จะทำเพื่อประเทศชาติและคนไทยทุกคน
"ดิฉันขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทั่วประเทศที่ให้โอกาสดิฉัน ซึ่งถือว่าเป็นพันธสัญญาทางใจให้ตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ในการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ด้วยความภาคภูมิใจ ดิฉันจะมุ่งมั่นสร้างสุขสลายทุกข์ให้แก่พี่น้องประชาชนอย่างสุดกำลังความสามารถ ดิฉันจะไม่ทำเพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่จะทำเพื่อประเทศชาติและคนไทยทุกคน"น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว