น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าในการประชุมแก้ปัญหาน้ำท่วม ที่จ.สุโขทัย ว่า ในหลายพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมเป็นพื้นที่ที่เกิดปัญหาซ้ำซ้อน 4-5 ครั้ง ซึ่งเป็นปัญหาระยะยาวที่ต้องแก้ไข โดยได้มอบหมายให้ รัฐมนตรีแต่ละกระทรวง รวมถึงปลัดกระทรวง อธิบดี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดูแล ซึ่งปัญหาแบ่งเป็นปัญหาระยะสั้น คือ การแก้ปัญหาสภาพความเป็นอยู่ของประชาชน การดูแลทางด้านสาธารณสุข เนื่องจากน้ำท่วมขังเป็นเวลานานอาจจะมีปัญหาในเรื่องโรคน้ำกัดเท้าได้ ส่วนระยะยาวจะมีการหารือในการดูแลแก้ไขปัญหาน้ำระยะยาว การวางระบบชลประทานจึงต้องหารือกับผู้ที่มีความชำนาญ ซึ่งมอบหมายเรื่องนี้ให้อธิบดีกรมชลประทานไว้แล้ว
ส่วนการเรียกร้องของประชาชนในการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นได้มอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอรับทราบปัญหาและข้อเท็จจริง เบื้องต้นมีทั้งข้อดี และข้อเสีย รวมทั้งข้อห่วงใยของประชาชนที่อยู่ในบริเวณแก่งเสือเต้น จึงขอทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ และประชาชนในพื้นที่ก่อนจะตัดสินใจดำเนินการอีกครั้ง ซึ่งการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นถือว่าเป็นวาระสำคัญที่รัฐบาลจะพิจารณาแต่ต้องอยู่ที่ความเหมาะสมและความลงตัวในการที่จะพิจารณา ซึ่งการตัดสินใจต้องอยู่บนข้อเท็จจริง แม้ตัดสินใจแล้วจะมีผลกระทบตามมา ทั้งนี้ ตนเองพร้อมจะเป็นตัวกลางเข้ามาแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประชาชนในพื้นที่กับเอ็นจีโอ
"เราต้องเข้าใจปัญหาที่แท้จริงเสียก่อน และหาแนวทางแก้ไข ตนจึงต้องทำงานในด้านนี้ก่อนจึงจะสามารถวิเคราะห์ได้ เนื่องจากปัญหาต่างๆ เป็นปัญหาระยะยาวจึงต้องหาข้อมูลหาข้อสรุปก่อนเพื่อหาแนวทางถึงข้อดีข้อเสียว่าเป็นอย่างไร จากนั้นจึงจะมาหารือกับพี่น้องประชาชนถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาว่าเป็นอย่างไร และต้องพูดคุยกับองค์กรภาคเอกชน(เอ็นจีโอ)ที่คัดค้านด้วย" นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าว
ทั้งนี้การดำเนินการจะคำนึงถึงทุกภาคส่วน ซึ่งไม่เน้นมุ่งที่ต้องสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นอย่างเดียว แต่ต้องการวางแนวทางแก้ปัญหาน้ำท่วมมากกว่า โดยคำนึงถึงผลระยะยาวในการเชื่อมลุ่มแม่น้ำเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะนโยบายของรัฐบาลจะมีการเชื่อม 25 ลุ่มแม่น้ำเข้าด้วยกัน ดังนั้นขอศึกษาในภาพรวมก่อนจึงจะไปแก้ปัญหาในรายจังหวัดได้