นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เผยมอบหมายให้ทีมกฎหมายดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีโฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นออกมาชี้แจงเหตุผลการอนุญาตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าประเทศเป็นกรณีพิเศษตามคำร้องขอของรัฐบาลไทย ซึ่งต้องตรวจสอบดูว่าใครเป็นผู้เข้าไปดำเนินการเรื่องดังกล่าว
"การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สามารถเข้าประเทศญี่ปุ่นได้แสดงให้เห็นว่ามีการไปดำเนินการในส่วนของทางการไทย อันนี้เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม เพราะมีหน้าที่ปกป้องระบบกฎหมาย เมื่อศาลไทยวินิจฉัยตัดสินไปแล้ว ไม่ว่าใครจะพอใจหรือไม่ก็ตาม คนที่เป็นฝ่ายบริหารมีหน้าที่ต้องบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามหลัก" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ก่อนหน้านี้ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ออกมาระบุว่า เมื่อวันที่ 11 ส.ส.ที่ผ่านมา เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยได้เดินทางมาพบอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อแจ้งให้ทราบว่าได้เชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปบรรยายทางการศึกษาและตรวจเยี่ยมเรื่องสึนามิ พร้อมสอบถามถึงนโยบายของรัฐบาลไทยต่อการเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งนายสุรพงษ์ได้ชี้แจงไปว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายไปห้ามใครเดินทางเข้าประเทศนั้นประเทศนี้
"ใครก็ตามที่เป็นเจ้าหน้าที่ แทนที่จะเดินหน้าทำให้กฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ์ แต่กลับไปช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้คนหลบหนีคดีก็มีความผิด ส่วนตามระเบียบหรือการตัดสินใจของญี่ปุ่นไม่ทราบว่ามีหลักเกณฑ์กติกาและวิธีปฏิบัติอย่างไร ในส่วนของฝ่ายเราเป็นสิ่งที่จะต้องรับผิดชอบต่อประชาชน" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ว่าที่หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า อยากจะเตือนรัฐบาลว่าความคาดหวังของประชาชนคือ การเร่งแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เป็นปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีการตัดสินใจเชิงนโยบายที่ซับซ้อนมากนัก เช่น เรื่องน้ำท่วม หรือปัญหาเกี่ยวกับเศรษฐกิจในการกำกับดูแลเรื่องราคาสินค้า สิ่งเหล่านี้เป็นความคาดหวังของประชาชน แต่ข่าวที่ได้ยินกลายเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ
ว่าที่หัวหน้าพรรค ปชป.ยอมรับว่า กรณีที่ตำรวจสากลไม่มีการออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในคดีก่อการร้ายสมัยรัฐบาลที่ผ่านมาถือเป็นความบกพร่องที่ไม่ได้ติดตามความคืบหน้า ทำให้เรื่องค้างในขั้นตอนการแปลเอกสารและข้อเทคนิคในชั้นอัยการ ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่จะดำเนินการต่อ ส่วนจะทำได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล
"คดีก่อการร้ายทางดีเอสไอส่งเรื่องให้ตำรวจและอัยการ ปรากฏว่าจนถึงวันนี้ทางตำรวจและอัยการยังทำไม่เสร็จ ตำรวจประสานไปทางอัยการเห็นว่ามีปัญหาในเรื่องการแปลข้อความ เข้าใจว่าเป็นความกังวลที่เกิดจากกรณีแรกว่าทำอย่างไรให้ความผิดต่างๆ สามารถเทียบเคียงได้ เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องไปติดตามและเร่งรัดต่อ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว