น.พ.ชูชัย ศุภวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวถึงความคืบหน้าร่างรายงานเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)ว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าไปพอสมควร กสม.ทำงานร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิอีก 10 คน ประชุมกันทุกสัปดาห์ โดยที่ตนได้เรียนให้ ศ.อมรา พงศาพิชญ์ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ทราบแล้วว่าไม่ขอเข้าประชุมด้วย เพราะอาจนำไปกล่าวอ้างเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของรายงาน แต่ในวันแถลงข่าวเพื่อเสนอรายงานฉบับนี้ต่อสาธารณชน สำนักงาน กสม.จะชี้แจงกลไกและกระบวนการจัดทำรายงานฉบับนี้ทั้งหมด เพราะที่ปรากฏตามหนังสือพิมพ์บางฉบับก่อนหน้านี้ ล้วนคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงไปมาก
น.พ.ชูชัย กล่าวถึงกรณีมีความพยายามเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของตนกับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อทำให้สาธารณชนเข้าใจว่าตนมีอคติในการจัดทำร่างรายงานเหตุการณ์การชุมนุมของ นปช. ระหว่างวันที่ 12 มี.ค.-19 พ.ค.53 ที่ผ่านมา ตนขอปฏิเสธว่าไม่เคยเข้าร่วมงานหรือกิจกรรมใด ๆ กับพรรคประชาธิปัตย์ตามที่เป็นข่าว
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าในระหว่างที่เป็นข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขเคยได้รับมอบหมายให้ดูแลเรื่องการควบคุมการบริโภคยาสูบจาก นายชวน หลีกภัย รมว.สาธารณสุขในขณะนั้น
ขณะเดียวกัน ตนยังทำหน้าที่เป็นเลขาธิการแพทยสภาที่ต้องทำงานและเสนอความเห็นต่อนายชวน หลีกภัย ในฐานะสภานายกพิเศษของแพทยสภา อาจทำให้ถูกมองว่าเป็นการทำงานให้พรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนี้ โดยส่วนตัวตนมีความเคารพนายชวน หลีกภัย และนายชวน หลีกภัย ก็ให้ความเคารพนับถือพ่อของตนเช่นกัน
น.พ.ชูชัย ยังกล่าวว่า ที่ผ่านมามีเพื่อนจากพรรคการเมืองอื่น ๆ ขอข้อมูลหรือข้อเสนอแนะมาก็จัดส่งให้ทุกพรรค ไม่ใช่เฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ ในอดีตเคยมีพรรคการเมืองหลายพรรคชวนลงสนามเลือกตั้งทั้งในระดับชาติและท้องถิ่น ซึ่งตนได้ปฏิเสธไปทุกครั้งเพราะถนัดแต่การเมืองภาคพลเมืองเท่านั้น
"สำหรับตัวเองเคยเชื่อเสมอว่า หากยืนตรงกลางแดด อย่าได้กลัวเงาคด แต่บัดนี้อำนาจเงินไม่เพียงแต่ทำให้ผีโม่แป้งได้ ยังทำให้คนที่แตะต้องเกิดอาการโรคสายตาเอียงได้อีกด้วย" น.พ.ชูชัย กล่าว