นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน เรียกร้องให้รัฐบาลทำตามสัญญาที่ได้ประกาศไว้กับประชาชนในช่วงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็น การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท, การบริหารราคาพลังงานให้มีความเหมาะสม, การลดภาษีเงินได้นิติบุคคล, การแจกคอมพิวเตอร์แทปเล็ตให้กับเด็ก ป.1 ทั่วประเทศ เพื่อกอบกู้ภาพลักษณ์ของนักการเมืองและสภาผู้แทนราษฎรให้กลับคืนมา เนื่องจากนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภาและการให้สัมภาษณ์ของรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก่อนหน้านี้ยังมีความคลุมเครือ
"นักการเมืองตกเป็นจำเลยของสังคมตลอดเวลา ต้องยอมรับว่าภาพลักษณ์ของนักการเมืองในสายตาของพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนโดยส่วนใหญ่ไม่ดี สิ่งที่มักถูกสบประมาทอยู่เสมอคือ พวกเราพูดอะไรก็ได้เพื่อหาคะแนนเสียง แต่เวลาจะลงมือเพื่อแก้ไขปัญหาจริงนั้นมักไม่ทำตามคำมั่นสัญญา" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลควรยึดถือมี 4 ประการ คือ 1.รัฐบาลจำเป็นต้องทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน 2.รัฐบาลจำเป็นต้องสานต่อการแก้ปัญหาของบ้านเมือง ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับโครงสร้าง เพื่อให้การแก้ปัญหามีความคืบหน้า 3.รัฐบาลต้องมุ่งทำงานเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่มีผลประโยชน์อื่นใดมาแอบแฝง ขจัดปัญหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน และ 4.รัฐบาลต้องปกป้องสถาบันหลักของชาติ ซึ่งเป็นอนาคตของสังคมและประเทศชาติ
"รัฐบาลเป็นผู้ไปสร้างความคาดหวัง สร้างโจทย์ให้กับประเทศในเรื่องการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความเป็นอยู่ด้านเศรษฐกิจ ในเรื่องของปากท้อง" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันเลือกตั้งเป็นต้นมาถึงปัจจุบัน ประชาชนมีความหวั่นไหวว่าคำสัญญาที่ให้ไว้จะทำจริงหรือไม่ ซึ่งจะเห็นได้จากดัชนีความสุขลดลง เพราะนโยบายที่ได้ประกาศตอนหาเสียงมีความชัดเจนมาก แต่หลังเลือกตั้งกลายเป็นความคลุมเครือ
"วันนี้รัฐบาลต้องแถลงให้ชัดต่อประชาชน ทำความชัดเจนเพื่อการบริหารงานของท่านเอง และทำความชัดเจนเพื่อให้พี่น้องประชาชนไม่หวั่นไหว ไม่เช่นนั้นการสลายทุกข์ หรือสร้างความสุขเกิดขึ้นไม่ได้" นายอภิสิทธิ์ กล่าว