นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนายการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงการแถลงนโยบายของรัฐบาลในวันนี้ว่า สามารถตอบโจทย์ได้เพียงสองกลุ่มเท่านั้นคือ การแก้ปัญหาทางการเมืองและการช่วยเหลือทางด้านเศรษฐกิจเฉพาะหน้าของคนไทย โดยเฉพาะในเรื่องของการปรับขึ้นค่าแรง การลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน และการจำนำข้าวเปลือกตันละ 15,000 บาท
แต่ในระยะกลางและระยะยาว รัฐบาลยังไม่สามารถตอบโจทย์ในเรื่องการแข่งขันของประเทศไทยและตำแหน่งของประเทศ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนกลุ่มอุตสาหกรรมและบริการและภาคการเกษตร ที่จะเป็นจุดขายของประเทศ
"ผมมองว่านโยบายของรัฐบาลระยะสั้นผู้คน Happy แต่ไม่มีนโยบายไหนที่บ่งบอกถึงเรื่องการแข่งขันของประเทศไทยในระยะยาว"นายอัทธ์ กล่าว
ในกรณีของนโยบายรับจำนำข้าว เกรงว่าอนาคตจะทำให้ชาวนาไทยไม่รู้จักการพัฒนา เพราะไม่ต้องแข่งขันกับใคร เพราะรัฐบาลรับซื้อขาวไว้ทั้งหมด
"ผมห่วงอีกหน่อยชาวนาไทยจะเป็นง่อยไม่ต้องคิดที่จะแข่งขันกับใคร ก็จะไม่เกิดการพัฒนา อีกทั้งจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ข้าวของเวียดนามมากขึ้น เพราะข้าวไทยจะแพงกว่าข้าวเวียดนาม"นายอัทธ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหากรัฐบาลยังจะใช้นโยบายเหล่านี้ในการหาเสียงคงจะได้อยู่ยาวเนื่องจากถูกใจคนหมู่มาก แต่ทว่ารัฐบาลก็ควรหาวิธีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ในระยะต่อไป โดยเฉพาะการลดต้นทุนการผลิตโดยเฉพาะเรื่องปุ๋ย และพันธุ์ข้าว แล้วค่อย ๆ ปรับลดเพดานราคารับจำนำลง พร้อมสนับสนุนให้ รัฐบาลควรจะลอยตัวราคาพลังงานทุกชนิด