"ทักษิณ" ยืนยันไม่ได้แทรกแซงการทำงานของ "ยิ่งลักษณ์"

ข่าวต่างประเทศ Tuesday August 23, 2011 17:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวในการแถลงข่าวที่กรุงโตเกียวว่า ไม่มีแผนการที่จะกลับประเทศไทย หากการเดินทางกลับประเทศของตนก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ พร้อมกับปฏิเสธเรื่องการเข้าไปก้าวก่ายการบริหารงานของน้องสาว

"ผมไม่คิดจะกลับไป หากว่าผมเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา และแน่นอนผมจะเดินทางกลับ หากว่าผมไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของปัญหา" สำนักข่าวซินหัวรายงานคำกล่าวของอดีตนายกฯ ซึ่งกล่าวเสริมว่า ตนเต็มใจที่จะกลับประเทศทันที หากว่าสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา

ซินหัวรายงานว่า การเดินทางเยือนญี่ปุ่นของพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งพ้นจากอำนาจในการปฏิวัติเมื่อปี 2549 เกิดขึ้นเพียงสองสัปดาห์หลังจากที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทย ส่งผลให้เกิดการตั้งข้อสงสัยจากนักวิจารณ์และฝ่ายค้านว่า อดีตนายกฯกำลังทำตัวให้เป็นที่จับตาในเวทีสากล

อดีตนายกฯกล่าวว่า ตนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับน้องสาว แต่ปฏิเสธเรื่องการเข้าไปแทรกแซงกิจการทางการเมืองของน.ส.ยิ่งลักษณ์

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า "เราติดต่อกันมาโดยตลอดในฐานะสมาชิกในครอบครัว น้องสาวผมอาจจะไม่รู้จักผู้คนดีเท่ากับผม ซึ่งนั่นถือเป็นเรื่องปกติ แต่เธอก็มีสิทธิที่จะบริหารประเทศโดยปราศจากการแทรกแซงของผม เมื่อใดก็ตามที่เธอต้องการคำแนะนำ เธอก็จะโทรมาหาผม และผมก็จะให้คำแนะนำกับเธอ ผมทำตัวเหมือนเป็นสารานุกรม เมื่อใดก็ตามที่เธอต้องการเปิดสารานุกรม เธอก็สามารถเปิดดูเมื่อใดก็ได้ และจะเลิกดูเมื่อไรก็ได้"

อดีตนายกฯกล่าวต่อไปว่า "การเดินทางเยือนญี่ปุ่นเป็นสิทธิของผม น้องสาวผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย และรัฐบาลไทยก็ไม่สามารถบีบให้รัฐบาลญี่ปุ่นออกวีซ่าให้กับใครก็ได้"

รายงานระบุว่า การเดินทางเยือนญี่ปุ่นของพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นไปด้วยความปราถนาดีนั้น ก่อให้เกิดการประท้วงกลุ่มเล็กๆในประเทศไทย โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กลุ่มผู้ประท้วงได้เดินขบวนไปหน้าสถานทูตญี่ปุ่น เพื่อประท้วงการตัดสินใจของญี่ปุ่นที่ออกวีซ่าให้กับอดีตนายกฯ ทั้งที่เขาต้องโทษจำคุกเป็นเวลา 2 ปีในข้อหาทุจริต

ทั้งนี้ อดีตนายกฯได้ย้ำถึงความบริสุทธิ์ของตนเองว่า หากตนทำผิดกฎหมาย ก็พร้อมที่จะรับโทษ แต่ข้อกล่าวหาที่มีต่อตนนั้นเกิดจากการผลักดันทางการเมือง

พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางเยือนญี่ปุ่นจนถึงวันที่ 28 ส.ค. โดยเขากล่าวว่า ไทยควรจะช่วยเหลือญี่ปุ่นให้ฟื้นตัวจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนมี.ค.ด้วยการใช้มาตรการต่างๆ เช่น การอนุมัติให้ผู้รอดชีวิตที่ต้องการฟื้นฟูสุขภาพในประเทศไทยสามารถเดินทางเข้าไทยโดยไม่ต้องขอวีซ่า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ