นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรครักประเทศไทย กล่าวว่าหลังจากตนนำคลิปเกี่ยวกับบ่อนการพนันย่านสุทธิสารมาเปิดในการแถลงนโยบายของรัฐบาล เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น วันนี้ตนจะพูดเรื่องนี้เป็นครั้งสุดท้าย ขอหยุดเรื่องนี้ไว้ก่อน เพื่อให้ตำรวจเข้าไปแก้ปัญหา ตนได้อภิปรายเรื่องนี้เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา แต่ตำรวจเข้าไปดำเนินการเมื่อวันที่ 26 ส.ค. เท่ากับมีเวลาให้คนเหล่านั้นขนของออกจากโกดังได้ถึง 3 วัน แล้วจะเหลืออะไร อย่างไรก็ตาม ตนได้ถ่ายคลิปวิดีโอการขนย้ายเมื่อวันที่ 25 ส.ค. เวลา 03.00 น. เอาไว้เป็นหลักฐาน เป็นภาพการขนย้ายทุกอย่าง ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ แม้กระทั่งพรมปูพื้น ยังขนออกมาเลย สำหรับประเทศไทย การตั้งบ่อนการพนันใจกลางกรุงเทพฯ และใกล้สถานศึกษาเป็นเรื่องผิดศีลธรรมที่ไม่ควรมี ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจริง ๆ คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ กลับไม่ได้แก้ไขปัญหา แต่ทำตัวเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างปัญหาเสียเอง
"ผมจำเป็นต้องออกมาพูดเพราะมีการแอบอ้าง ที่อาจจะทำให้เกิดผลเสียหายใหญ่หลวง สิ่งที่ท่านแอบอ้างมันมากเกินไป ซึ่งไม่ใช่สถาบันตำรวจเท่านั้น สิ่งที่ท่านแอบอ้างนั้นไม่มีใครกล้าพูด ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้เจ้าของบ่อนจะได้ประโยชน์ และผมอยากให้สังคมได้ดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ ตำรวจเป็นต้นทางความยุติธรรม ถ้าตำรวจบิดเบี้ยวความยุติธรรมต่าง ๆ ในสังคมจะลำบาก ผมคงพูดไม่ได้ว่าสังคมจะฝากศรัทธากับตำรวจได้หรือไม่ เพราะสังคมจะพิจารณา ขอเตือนตำรวจทุกคนว่าท่านมีหน้าที่ดูแลประชาชนให้เกิดความเชื่อถือ ความศรัทธา แล้วท่านมาทำลายความเชื่อถือของตัวท่านเอง จนทำให้ตำรวจดี ๆ ต้องเสียภาพลักษณ์ไปด้วย หัวใจผมอยู่ด้านซ้ายถ้าจะยิงผมก็ยิงให้โดน ผมไม่กลัว" นายชูวิทย์กล่าว
นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า การให้จเรตำรวจแห่งชาติ และคณะกรรมการสืบสวนฯ เข้ามาสอบสวนกรณีดังกล่าวเป็นเพียงพิธีการอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่ได้ผล จเรตำรวจจะไปจับยังไงตนก็คิดว่าลำบาก ผบช.น.ทราบอยู่ว่าการจับบ่อนการพนันไม่ใช่เรื่องง่าย การจับโดยให้เวลาแค่ 3 วัน แล้วค่อยไปตรวจดูเป็นพิธีกรรมที่ไม่น่าเชื่อถือ และสังคมจะประณาม สิ่งที่ตนพูดเพื่อป้องปรามเท่านั้น ส่วนหน้าที่ที่ท่านดำเนินการไม่ได้ และใช้เวลานานในการตรวจสอบ ดังนั้นคำสั่งของ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ก็เป็นแค่คำสั่งที่สั่งไปอย่างนั้นเอง คงไม่มีใครสามารถกระทำได้
"ถ้าตำรวจยังกล้าบอกว่าพื้นที่ สน.โชคชัย ไม่มีบ่อน คิดหรือว่าผมไม่มีหลักฐานหรือถ่ายเอาไว้ และไม่กล้าออกมาพูด เหตุที่ผมไม่ให้คลิปตำรวจเพราะท่านทำงานด้วยความไม่บริสุทธิ์ใจ และมันไม่ใช่หน้าที่ของผมที่ถ่ายแล้วนำไปให้ท่าน มันเป็นเรื่องที่ท่านต้องลงพื้นที่ตรวจสอบเอง ไม่ใช่หน้าที่ผม ผบ.ตร.ท่านนี้ผมให้ความไว้วางใจ แต่การตรวจสอบโดยใช้เวลานานไม่มีใครเขาทำกัน การกระทำอย่างนี้มันเหลืออดในการทำงานของตัวพวกท่านเอง"
ส่วนกระแสข่าวว่าการออกมาแฉเรื่องดังกล่าวเพราะเป็นใบสั่งจากรัฐบาล เพื่อเลื่อยขาเก้าอี้ ผบ.ตร. นายชูวิทย์กล่าวว่าการที่ตำรวจผลักให้ตนไปอยู่ฝ่ายตรงข้ามก็มากเพียงพอแล้ว ยืนยันว่าการพูดของตนไม่มีการรับงาน หรือให้ประโยชน์กับฝ่ายการ เมืองแต่อย่างใด ตนไม่อยากจะเล่นเกมในสภา และหนีมาพูดเรื่องอบายมุข ซึ่งเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อสังคมมากกว่า ที่ผ่านมาผู้ใหญ่ระดับนายพลโทรฯ มาให้กำลังใจตน และพร้อมที่จะมาอยู่ฝั่งเดียวกับตน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูวิทย์ได้นำคลิปวิดีโอความยาวประมาณ 2-3 นาที เป็นภาพบุคคลจำนวนมากกำลังช่วยกันขนย้ายโต๊ะ เก้าอี้ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ออกจากโกดังแห่งหนึ่ง ขึ้นรถบรรทุกอย่างเร่งรีบ แต่ภาพดังกล่าวค่อนข้างมืดและไม่ค่อยชัดเจน นายชูวิทย์ระบุด้วยว่าการขนของดังกล่าวมีจำนวนมาก เพราะของเต็มรถบรรทุก และใช้เวลาขนของประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งผู้สื่อข่าวสามารถนำภาพไปเปรียบเทียบกับสถานที่จริงได้