ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลคงจะไม่มีการโยกย้ายข้าราชการทั้งหมดที่พรรคประชาธิปัตย์ได้แต่งตั้งไว้ แต่จะพิจารณาตามลักษณะของงาน พร้อมปฏิเสธแสดงความคิดเห็นกรณีการโยกย้ายนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) โดยกล่าวแต่เพียงว่าเป็นอำนาจของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม จะพิจารณาความเหมาะสม
"อย่าไปคิดว่าจะมีการโยกย้ายแม่ทัพนายกอง อย่าไปคิดแบบนั้น" รองนายกฯ กล่าว
ส่วนการแต่งตั้ง พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ ขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)คนใหม่นั้น เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้นัดประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(กตช.) ซึ่งหลังจากย้ายพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.คนปัจจุบัน มาดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)แล้ว จึงจะให้พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ในฐานะรองผบ.ตร.ที่มีอาวุโสมากสุด ขึ้นรักษาการ ผบ.ตร.ไปก่อน
ร.ต.อ.เฉลิม คาดหวังว่าพล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ จะสามารถรับผิดชอบและทำงานได้ดีกว่าที่ตนคิด เพราะเป็นคนที่ไม่รับเงิน เป็นตำรวจมือปราบ ซึ่งจะสามารถทำงานด้านการปราบปรามร่วมกับ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร.ได้เป็นอย่างดี
ส่วนพล.ต.อ.วิเชียร นั้น มองว่าเหมาะกับการไปนั่งในตำแหน่งเลขาธิการ สมช. มากกว่าเป็นปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เพราะมีความสามารถด้านการวางแผน และเป็นนักการข่าว ส่วนงานด้านปราบปรามคงจะไม่ถนัดนัก
อย่างไรก็ดี วันนี้จะเดินทางไปกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน โดยจะไปมอบนโยบายให้ ตชด.มีบทบาทรับผิดชอบในเรื่องการปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดน ป้องกันปัญหาแรงงานต่างด้าว รวมทั้งคนหลบหนีเข้าเมือง พร้อมมีแนวคิดเรื่องการปราบปรามยาเสพติดว่า หากปราบได้แล้วจะต้องมีมาตรการยึดทรัพย์กับผู้ที่ค้ายาเสพติดด้วย
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ยังไม่ทราบข้อมูลที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จแห่งชาติ(นปช.) ที่ออกมาเปิดเผยว่าจะมีขบวนการจ้องล้มรัฐบาลหลังวันที่ 5 ธ.ค. ซึ่งมาจากกลุ่มการเมืองเก่าและอำนาจนอกระบบ ทั้งนี้จะได้นัดรับประทานอาหารกับนายจตุพร ในวันที่ 4 ก.ย.นี้เพื่อพูดคุยและสอบถามข้อมูลในเรื่องดังกล่าว