สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เผยผลสำรวจเรื่องจุดยืนทางการเมืองฐานสนับสนุนต่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 1 พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 57.9 ขออยู่ตรงกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด (พลังเงียบ) ในขณะที่ร้อยละ 33.1 สนับสนุนรัฐบาล และร้อยละ 9.0 ไม่สนับสนุนรัฐบาล
ทั้งนี้ ส่วนใหญ่จะให้โอกาสรัฐบาลทำงานต่อไป ไม่เกินสามเดือน บางคนบอกไม่ต้องการให้โอกาส บางคนก็ยังให้โอกาสนานถึงหกเดือนและหนึ่งปี ทั้งๆ ที่ไม่สนับสนุนรัฐบาลชุดนี้และพวกเขาส่วนใหญ่ประเมินกันว่าช่วงเวลานี้ยังไม่เหมาะที่จะออกมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาล เนื่องจากว่าตอนนี้ไม่ต้องการซ้ำเติมบ้านเมืองและไม่อยากให้เกิดช่องว่างที่เป็นอันตรายต่อการปกครองแบบประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่มีอารมณ์เดือดและความไม่พอใจเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ กล่าวว่า ส่วนใหญ่ในกลุ่มพลังเงียบและกลุ่มคนไม่สนับสนุนรัฐบาลไม่พอใจต่อรัฐบาลหลายเรื่องตรงกัน เช่น ความล่าช้าในการแก้ปัญหาภัยพิบัติน้ำท่วม ปัญหาราคาสินค้า ค่าครองชีพ การเลือกปฏิบัติไม่กระจายเรื่องค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำให้ทั่วถึงทุกจังหวัด ทำและพูดไม่ตรงกับช่วงหาเสียงในเรื่องเงินเดือนปริญญาตรีและค่าจ้างแรงงาน การแต่งตั้งบุคคลที่ไม่เหมาะสมแป็นข้าราชการการเมือง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการมุ่งเน้นช่วยเหลือพรรคพวกของตนเองให้ได้ดี เป็นต้น
แต่กลุ่มพลังเงียบส่วนใหญ่ยังให้โอกาสรัฐบาลเพราะไม่อยากเห็นบ้านเมืองวุ่นวาย ในขณะที่กลุ่มคนไม่สนับสนุนรัฐบาลพร้อมจะออกมาเคลื่อนไหวแต่ยังไม่มีผู้นำที่ไว้ใจและยังไม่น่าศรัทธาเพียงพอในตอนนี้เนื่องจากที่ผ่านมา แกนนำผู้ชุมนุมมักมีผลประโยชน์ส่วนตัวแอบแฝงจนเกิดความเสื่อมศรัทธา
นายนพดล กล่าวว่า กลุ่มพลังเงียบจะตัดสินใจอย่างไรถ้ามีเรื่องต่อไปนี้เกิดขึ้นในรัฐบาลเช่น การทุจริตคอรัปชั่น การช่วยเหลือคนผิด และการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการโดยเอาคนใกล้ชิด ญาติพี่น้อง พรรคพวกของตนเองขึ้นมีอำนาจ เป็นต้น คำตอบจากกลุ่มพลังเงียบส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่พวกตนไม่พอใจ แต่ทุกรัฐบาลก็ทำกันรวมถึงรัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจด้วย การช่วยเหลือคนผิด การเลือกปฏิบัติ เอาญาติพี่น้อง คนใกล้ชิดมามีอำนาจ เกิดขึ้นทุกรัฐบาล จะมาวิจารณ์รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตรอย่างเดียวก็ไม่เป็นธรรมกับรัฐบาลของเธอ
ในขณะที่ กลุ่มไม่สนับสนุนรัฐบาลส่วนใหญ่บอกว่า จะต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นในทุกกรณี ต้องยึดหลักคุณธรรมความถูกต้องบ้านเมืองจึงจะอยู่รอดได้ รัฐบาลชุดนี้มุ่งแต่จะทำเพื่อช่วยเหลือคนบางคน และเอื้อประโยชน์ให้กับคนบางกลุ่ม เอาแต่ญาติพี่น้องและพรรคพวกของตนขึ้นมาเป็นใหญ่
เมื่อถามอารมณ์ความรู้สึกของกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลต่อรัฐบาล พบว่า ส่วนใหญ่มีความเลื่อมใสศรัทธาต่อรัฐบาลและถูกใจมากที่นำกลุ่มคนเสื้อแดงมาเป็นข้าราชการทางการเมืองเพราะเป็นตัวแทนจากภาคประชาชน ไม่ใช่เอาแต่คนชั้นนำมาเป็นใหญ่ เมื่อถามว่า ไม่กลัวว่าคนเหล่านั้นจะบ้าอำนาจ เจ้ายศเจ้าอย่าง อวดเบ่งหรือ กลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลส่วนใหญ่ตอบว่า เป็นเรื่องธรรมดามีในทุกรัฐบาล ใครๆ ก็ทำกัน แต่ประเทศไทยโชคดีที่ได้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงที่มีฐานะร่ำรวยแต่สุภาพอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ถือตัว เข้าถึงชาวบ้านคนยากคนจน จึงเป็นโอกาสที่ดีมากที่พวกเราได้นายกรัฐมนตรีคนนี้
กลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลยังตอกย้ำถึง "แรงศรัทธา" ที่พวกเขามีต่อพรรคเพื่อไทยว่า พรรคเพื่อไทยคือหนทางรอดที่จะทำให้พวกเขามีสิทธิมีเสียง มีอำนาจที่จะเรียกร้องสิ่งที่พวกเขาเคยถูกเอารัดเอาเปรียบกลับคืนมา
ทั้งนี้ ผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง สำรวจจุดยืนทางการเมืองฐานสนับสนุนของสาธารณชนต่อรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ 1 สามอารมณ์ สามมุม ในหมู่ประชาชน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 17 จังหวัดของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สมุทรปราการ พะเยา เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ นครพนม สกลนคร สุรินทร์ บุรีรัมย์ ขอนแก่น นครราชสีมา ชุมพร ตรัง และนครศรีธรรมราช จำนวนทั้งสิ้น 2,614 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม — 3 กันยายน 2554 ที่ผ่านมา โดยใช้การเลือกตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่มเชิงชั้นภูมิหลายชั้น ที่สุ่มเลือกจังหวัด อำเภอ ตำบล ชุมชน ครัวเรือน และประชาชนตัวอย่างระดับครัวเรือน โดยมีช่วงความคลาดเคลื่อนบวกลบร้อยละ 7