นายจอช เออร์เนสต์ ผู้ช่วยเลขาธิการฝ่ายสื่อสารองค์กรประจำทำเนียบขาวเปิดเผยว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้บรรจุเรื่องการสร้างงานเป็นวาระสำคัญที่สุด รวมทั้งเรียกร้องให้สภาคองเกรสทั้ง 2 ฝ่ายหันหน้าร่วมมือกันเพื่อกระตุ้นให้มีการขยายการจ้างงานในสหรัฐ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในการขึ้นกล่าวสุนทรพจน์วันพฤหัสบดีนี้ นายโอบามาจะเน้นเรื่องการจ้างงาน โดยจะประกาศนโยบายหลายข้อเพื่อเอื้อต่อการสร้างสรรค์ตำแหน่งงาน สร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจ และสนับสนุนภาคเอกชนซึ่งจะเป็นผู้นำเศรษฐกิจสู่สภาวะที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
คาดว่านโยบายดังกล่าวจะประกอบไปด้วย การลงทุนในสาธารณูปโภคพื้นฐาน ความช่วยเหลือพิเศษสำหรับผู้ตกงาน และต่ออายุมาตรการลดภาษีรายได้สำหรับพนักงานชั้นกลาง
อย่างไรก็ตาม ผู้แทนจากพรรครีพิบลิกันบางรายคัดค้านการขยายมาตรการลดภาษีเงินเดือน โดยแย้งว่า ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าสามารถสร้างงานได้จริง และมีแต่จะทำให้หนี้สินของประเทศสูงขึ้น สำหรับนโยบายลดภาษีดังกล่าวคาดว่าจะขยายเวลาออกไปจนถึงวันที่ 1 ม.ค.
โอบามากล่าวในวันแรงงานที่เมืองดีทรอยต์ มลรัฐมิชิแกน โดยยืนยันว่า มาตรการลดภาษีทำให้ครัวเรือนในสหรัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 1,000 ดอลลาร์
ขณะเดียวกันยังเรียกร้องให้ฝ่ายนิติบัญญัติเร่งออกมาตรการสร้างงาน พร้อมกับมองว่า ข้อเสนอของเขาจะเป็นบททดสอบว่า ตัวแทนสภาคองเกรสจากพรรครีพับลิกันจะเห็นความสำคัญของประเทศชาติมาก่อนพรรคการเมืองหรือไม่
“เราจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากสภาคองเกรสเพื่อช่วยกันพาอเมริกากลับสู่ภาวะปกติ ในช่วงเวลาเร่งด่วนนี้ ในความยากลำบากที่ประชาชนของเรากำลังเผชิญอยู่ ทุกคนจะต้องสามัคคีกัน หมดเวลาที่จะมาเล่นเกมการเมืองในสภาแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องลงมือปฏิบัติเสียที" โอบามากล่าว