น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลจำเป็นต้องรับฟังความคิดเห็นจากคณะกรรมกากฤษฎีกาก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะนำรายชื่อคณะกรรมการ กสทช.ทั้ง 11 คนขึ้นทูลเกล้าฯ หรือไม่ แต่โดยปฏิบัติแล้วเมื่อรัฐบาลได้รับรายชื่อมาแล้วและไม่มีข้อท้วงติง ก็จะต้องนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ อยู่แล้ว
พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้เข้าไปแทรกแซงการทำงานหรือการตรวจสอบในเรื่องนี้ อีกทั้งไม่มีอำนาจที่จะชะลอการทูลเกล้าฯ รายชื่อ กสทช.
"ฝ่ายบริหารต้องทำเรื่องส่งอยู่แล้ว แต่ที่ปรึกษากับกฤษฎีกาเพราะต้องการทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ถ้าในฐานะนายกรัฐมนตรี เมื่อมีข้อท้วงติงแล้วไม่สนใจ นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ คงจะไม่ถูก"นายกรัฐมนตรี
ส่วนกรณีที่ข้าราชการสังกัดสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ออกจากตำแหน่งเลขาธิการ สมช. พร้อมขอไม่ให้นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งบุคคลภายนอกเข้ามาทำหน้าที่นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า พร้อมรับฟังความห่วงใยของข้าราชการ และมั่นใจว่าจะสามารถชี้แจงแก่ข้าราชการในส่วนต่างๆ ได้ และย้ำว่าการโยกย้ายในครั้งนี้ไม่ ได้เป็นการกลั่นแกล้งใคร
ทั้งนี้พร้อมจะให้นายถวิล มาทำหน้าที่ให้คำแนะนำด้านความมั่นคง เพราะถือว่าเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และจะมอบตำแหน่งผู้อำนวยการด้านบูรณาการและติดตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลให้ดูแล ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลพยายามจะพิจารณาบุคคลที่มีความเหมาะสมอยู่แล้ว
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการให้ความเห็นรายวันของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีว่า การให้สัมภาษณ์ของ ร.ต.อ.เฉลิม ถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งประชาชนที่ได้รับฟังข้อมูลจะเป็นผู้พิจารณาเอง ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม ให้ความเห็นเรื่องการยื่นฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น คงต้องแยกระหว่างเป็นความคิดเห็นส่วนตัวกับนโยบายของรัฐบาล เพราะรัฐบาลไม่มีนโยบายเร่งรัดเรื่องนี้