นิด้าโพลระบุบุคลิกภาพ"ยิ่งลักษณ์"เด่น แต่ความกล้าตัดสินใจต่ำ-"ทักษิณ"ครอบ

ข่าวการเมือง Monday September 12, 2011 18:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์สำรวจความคิดเห็นของประชาชน “นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) สำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “ภาพลักษณ์นายกรัฐมนตรีและการทางานของรัฐบาลตั้งแต่รับตาแหน่งจนถึงปัจจุบัน" ว่า คุณสมบัติเด่นของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ที่ได้คะแนนเฉลี่ยจากการประเมินของประชาชนมากที่สุดคือ ด้านบุคลิกภาพ ซึ่งได้คะแนนเฉลี่ยสูงถึง 7.94 เต็ม 10 คะแนน

ขณะที่ ด้านวิสัยทัศน์ ได้คะแนน 6.99, ด้านความฉลาด ไหวพริบ ความสามารถ ได้คะแนน 7.04, ด้านการกล้าตัดสินใจ ความเป็นตัวของตัวเอง ได้คะแนน 6.52, ด้านบุคลิกภาพ ได้ 7.94, ด้านภาวะความเป็นผู้นำ ได้คะแนน 6.92 และ ภาพลักษณ์ความเหมาะสมในการเป็นนายกรัฐมนตรี ได้ 7.18

อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติของนายกฯ ผู้นี้ที่ประชาชนให้คะแนนเฉลี่ยต่ำที่สุดคือ ด้านการกล้าตัดสินใจ ความเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งสอดคล้องกับผลการสำรวจข้อถัดมา ในประเด็นบุคคลที่มีอิทธิพลและบทบาทสาคัญต่อการทางานหรือการบริหารงานของ นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ โดยผลการสารวจสะท้อนให้เห็นว่า ประชาชน เชื่อว่า พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อนายกรัฐมนตรีมากที่สุด จึงน่าจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทาให้นายกรัฐมนตรีขาดความเป็นตัวของตัวเอง ไม่กล้าตัดสินใจในประเด็นปัญหาที่สาคัญหลายเรื่อง

ทั้งนี้ข้อมูลจากการสารวจแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างมากถึงร้อยละ 61.55 เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นบุคคลที่มีอิทธิพลและบทบาทสาคัญต่อการทางานหรือการบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรี "ค่อนข้างมากถึงมากที่สุด"

แม้ว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่จะเห็นว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บารุง แกนนำเสื้อแดง (น.ป.ช) คนเสื้อแดง (น.ป.ช) รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ตลอดจนประชาชนทั่วไปที่ไม่ใช่เสื้อแดง ต่างมีอิทธิพลและบทบาทสาคัญต่อการทางานหรือการบริหารประเทศของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ แต่ก็เป็นเพียงระดับ "ปานกลาง" เท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างที่ถือเป็นตัวแทนของคนไทยทั้งประเทศทราบดีว่า การปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ อยู่ภายใต้อิทธิพลของ พ.ต.ท.ทักษิณ

ในความเป็นจริง เป็นที่น่าสังเกตว่านับจากวันสิ้นสุดการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาคือ วันที่ 26 สิงหาคม 2554 ถึงวันที่ 8-9 กันยายน 2554 ที่มีการสำรวจความคิดเห็น แม้ว่ารัฐบาลเพิ่งเริ่มต้นทำงานบริหารประเทศอย่างเป็นทางการได้เพียงประมาณ 2 สัปดาห์เท่านั้น แต่รัฐบาลก็ดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายอย่างทันทีไปแล้วหลายเรื่อง เช่น การดำเนินมาตรการช่วยปัญหาน้ำท่วมใน 40 กว่าจังหวัดทางภาคเหนือและภาคกลาง การดำเนินมาตรการแก้ปัญหาค่าครองชีพ โดยการปรับลดราคาน้ามัน

การเตรียมการรับจำนำข้าวเปลือก การเจรจากับผู้ประกอบการเพื่อปรับลดราคาสินค้าอุปโภค บริโภค และบัตรเครดิตเกษตรกร บัตรเครดิตน้ามัน รวมถึงการปรับเปลี่ยนข้าราชการระดับสูงเพื่อสนองรับต่อการนานโยบาย ไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งเริ่มต้นอย่างครึกโครมคือ การหาตำแหน่งใหม่ให้ พล.ต.อ. วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. เพื่อหลีกทางให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ เข้ามาเป็น ผบ.ตร.แห่งชาติแทน กระทั่งส่งผลกระทบถึง นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ ต้องถูกย้ายไปดำรงตาแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจา

แต่ถึงกระนั้น ข้อมูลจากการสารวจความคิดเห็นของประชาชนได้สะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างมากถึงร้อยละ 45.58 มีความพึงพอใจต่อการทางานในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาของรัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์ เพียงระดับ "ปานกลาง" เท่านั้น จึงเป็นสิ่งที่ต้องจับตามองกันว่าประชาชนจะประเมินการทำงานในช่วงต่อไปของนายกฯยิ่งลักษณ์และรัฐบาลชุดนี้ ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด

อนึ่ง นิด้าโพลได้ทำการสำรวจความคิดเห็นระหว่างวันที่ 8-9 กันยายน 2554 จากประชาชนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ทุกระดับการศึกษาและกลุ่มอาชีพ จำนวน 1,290 หน่วยตัวอย่าง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ