นายโยชิฮิโกะ โนดะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นแถลงนโยบายครั้งแรกต่อรัฐสภาในวันนี้ ลั่นร่างแนวทางกลยุทธ์กระตุ้นเศรษฐกิจภายในสิ้นปีนี้ มุ่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหว ควบคุมวิกฤตนิวเคลียร์และลดการพึ่งพาพลังงานนิวเคลียร์ ฟื้นฟูเศรษฐกิจและกอบกู้สถานะการคลัง ตลอดจนสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยน
นายโนดะกล่าวในการแถลงนโยบายต่อที่ประชุมใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎร โดยย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยและแก้ปัญหานิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้าฟูกุชิม่า ไดอิจิอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อญี่ปุ่นซึ่งกดดันให้รัฐบาลต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศและหลีกเลี่ยงมิให้สถานะการคลังของประเทศทรุดตัวลงอีก
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังเผชิญความไม่แน่นอนจากความเสี่ยงต่างๆ อาทิ การขาดแคลนกระแสไฟฟ้าอันเนื่องมาจากการปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ การแข็งค่าอย่างรุนแรงของเงินเยน และความไร้เสถียรภาพของตลาดการเงินทั่วโลก
ทั้งนี้ นายโนดะกล่าวว่า รัฐบาลจะทบทวนนโยบายด้านพลังงานเพื่อจัดหาพลังงานไฟฟ้าให้แก่ภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน โดยลดการพึ่งพาพลังงานนิวเคลียร์ในระยะกลาง
ในส่วนของนโยบายการคลังนั้น นายโนดะกล่าวว่าเขาจะพยายามรักษาวินัยการคลังด้วยการปรับลดการใช้จ่ายเงินภาษีประชาชนที่ฟุ่มเฟือย ขายสินทรัพย์ของรัฐบาลและพิจารณามาตรการภาษีชั่วคราวเพื่อฟื้นฟูสถานะเงินทุน พร้อมส่งสัญญาณถึงความพร้อมที่จะขึ้นภาษีหากจำเป็น ในขณะที่สถานะการคลังของญี่ปุ่นอ่อนแอที่สุดในบรรดาประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยมีสัดส่วนหนี้สาธารณะพุ่งแตะ 200% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)
นอกจากนี้ รัฐบาลจะดำเนินทุกขั้นตอนที่จำเป็นร่วมกับธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เพื่อป้องกันมิให้การแข็งค่าของเงินเยนฉุดรั้งภาคการส่งออก
สำหรับนโยบายต่างประเทศนั้น นายโนดะให้ความสำคัญกับการเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงกับสหรัฐ และยืนยันว่าความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีที่เน้นแฟ้นจะช่วยเสริมสร้างสันติภาพและความมีเสถียรภาพในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ขณะเดียวกันก็ยืนยันว่าจะกระชับความสัมพันธ์ฉันท์มิตรกับจีนและเกาหลีใต้ พร้อมระบุว่าญี่ปุ่นจะหาข้อสรุปว่าจะเข้าร่วมการเจรจาการค้าเสรีกลุ่มหุ้นส่วนสองฟากฝั่งแปซิฟิก (TPP) หรือไม่โดยเร็ว