นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเดินทางไปกัมพูชาของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ที่ผ่านมา มีความสอดคล้องกับการเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ และส.ส.พรรคเพื่อไทย กลุ่มที่จะมีการเตะฟุตบอลกระชับมิตร ในเวลาที่พี่น้องประชาชนประสบอุทกภัยในขณะนี้ นายชวนนท์กล่าวว่า เรื่องนี้ก็เป็นสิทธิ์ที่จะเดินทางดังกล่าว พร้อมทั้งขอแสดงความยินดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และนายนพดล ปัทมะ ที่จะได้รับเหรียญเกียรติยศในการเดินทางไปกัมพูชาในครั้งนี้ ซึ่งตนก็ไม่รู้สึกแปลกใจ แต่คิดว่าน่าจะได้เร็วกว่านี้ จากผลงานที่ท่านได้ทำให้กับรัฐบาลกัมพูชาในช่วง 3 — 4 ปีที่ผ่านมา ท่านควรเป็นพลเมืองกิติมศักดิ์ ควรจะได้เหรียญกล้าหาญจากรัฐบาลกัมพูชา ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วที่รัฐบาลกัมพูชาควรจะต้องตอบแทน
ในขณะเดียวกันตลอด 3 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาลนายกฯ อภิสิทธิ์ และตนในฐานะในฐานะเลขานุการรัฐมนตรีนั้นเห็นว่าประเด็นพื้นที่ทับซ้อน ประเด็นความขัดแย้งอาทิ ปราสาทพระวิหาร หรือพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลนั้น มีความชัดเจนถึงท่าทีของรัฐบาลนายกฯ อภิสิทธิ์ ถึงการปกป้องสิทธิ ปกป้องอธิปไตย และผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนไทย แต่สิ่งที่น่าเสียใจมากคือการให้สัมภาษณ์ของนายกฯ ยิ่งลักษณ์วานนี้ เท่ากับ 3 ปีที่ผ่านมาทั้งหมดไม่มีประโยชน์ เพราะนายกฯ ยิ่งลักษณ์ไม่ทราบว่า 46 ตร.กม. เป็นของประเทศไทย
"เขาต่อสู้กันมา 2 — 3 ปี จนไปสู้กันที่ศาลโลก เพราะเรายืนยันว่า 46 ตร.กม. เป็นของเราทุกตารางนิ้ว ถ้าท่านไม่ทราบอย่างนี้ แล้วศาลโลกได้ยิน เขาจะรู้สึกอย่างไร เราต่อสู้กันอยู่ นายกรัฐมนตรีไทยยังไม่รู้เลยว่าพื้นที่นั้นเป็นของไทย ในขณะที่นายกฯ ฮุนเซน พูดชัดว่าเป็นของเขา และเขาจะไม่ถอนทหาร ท่านทำให้ 2 — 3 ปีที่ผ่านมา ที่พี่น้องทหารต้องเสียชีวิต บาดเจ็บ ล้มตาย ประชาชนต้องอพยพถิ่นที่อยู่ในบริเวณชายแดนสูญเปล่าทั้งหมด เพราะท่านพูดไม่ได้คิด ผมเชื่อว่าถ้าท่านอ่านหนังสือพิมพ์ อ่านประวัติศาสตร์ ท่านมีสิทธิ์ที่จะทราบเรื่องนี้ และท่านต้องทราบ" นายชวนนท์กล่าว
นอกจากนี้โฆษกพรรคฯ ยังกล่าวอีกด้วยว่า ภายหลังจากที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์เดินทางกลับจากกัมพูชากลับเดินหน้าเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล โดยที่ไม่ทราบว่ารายละเอียดของ MOU 2544 มีความเสียหายต่อประเทศอย่างไร นอกจากนี้หลักฐานชัดเจนที่พี่น้องประชาชนควรจะต้องให้ความเป็นห่วงคือ การเร่งให้การต้อนรับนายจอห์น วัตสัน ประธานและกรรมการผู้บริหารสูงสุด บริษัท เชฟรอน คอร์ปอเรชั่น ในการเข้าเยี่ยมคารวะ ซึ่งบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของโลก และมีสัมปทานสำรวจ ขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทย ทั้งในส่วนของไทย และกัมพูชา ในขณะที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์มีกำหนดการเยือน สปป.ลาว ดังนั้นในเรื่องนี้ทางพรรคฯ จะได้ติดตามอย่างต่อเนื่องต่อไปว่าผลประโยชน์ของประชาชนนั้นใครจะเป็นผู้รักษาไว้ระหว่างรัฐบาลพรรคเพื่อไทย กับฝ่ายค้านพรรคประชาธิปัตย์