นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวถึงปัญหากล้อง CCTV ของ กทม.ว่า คณะทำงานภาค กทม.ของพรรคฯ มีมติให้ตั้งคณะทำงานเพื่อไปตรวจสอบการดำเนินการของ กทม.ตั้งแต่สมัยที่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นผู้ว่าฯ กทม.จนถึงปัจจุบันที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เป็นผู้ว่าฯ กทม. โดยเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา คณะทำงานปราบโกงพรรคเพื่อไทยได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า มีทั้งหมด 327 จุด โดยส่วนใหญ่อยู่ในเขตดุสิต เขตพระราชวัง ตามโรงเรียนต่างๆ รวมทั้งในพื้นที่เขตห้วยขวางและเขตบางกะปิ
อย่างไรก็ตาม ภาค กทม.พรรคเพื่อไทย จะตรวจสอบคู่สัญญากับ กทม.ตั้งแต่สมัยนายอภิรักษ์ เป็นผู้ว่าฯ กทม.ด้วยว่ามีการเซ็นสัญญากับคู่สัญญาไว้จำนวนเท่าใด รวมทั้งมีการระบุว่าเป็นกล้องหลอกไว้หรือไม่ ซึ่งหากไม่มีก็แสดงว่าอาจจะมีการทุจริต
ส่วนกรณีที่ผู้ว่า กทม.ระบุว่า ขณะนี้มีการติดตั้งไปแล้ว 10,000 จุด และจะทยอยติดตั้งให้ครบ 20,000 จุด ก็จะดำเนินการตรวจสอบด้วยว่ามีการส่งสัญญาณภาพไปที่ใด หากส่งไปที่สำนักเขตก็จะตรวจสอบว่ามีห้องควบคุมหรือไม่ รวมทั้งมีฮาร์ดิกส์เก็บข้อมูลเพียงพอหรือไม่
ส่วนกรณีที่นายอภิรักษ์ แถลงข่าวตอบโต้ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ว่า ในสมัยที่นายอภิรักษ์เป็นผู้ว่านั้นไม่มีกล้องปลอม เราก็จะตรวจสอบเรื่องดังกล่าวด้วย เพราะเชื่อว่าวันนี้คน กทม.กำลังสงสัยว่าถูกพรรคประชาธิปัตย์หลอกหรือไม่ และภาค กทม.ก็จะตรวจสอบถึงโครงการรถเมล์ 4,000 คัน ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป และรถดับเพลิงหลายร้อยคันที่จอดอยู่ที่แหลมฉบังด้วย
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษก พท. กล่าวว่า ขอเรียกร้องพรรคประชาธิปัตย์ให้เข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ไม่ให้เข้าข่ายแมลงวันไม่ตอมแมลงวันด้วยกันเอง ทั้งที่คน กทม.เลือกพรรคประชาธิปัตย์มาเป็น ส.ส.กทม.จำนวนมาก