แม้สภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบหลายสิบปีส่งผลกระทบต่อความนิยมในตัวประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญในสหรัฐเชื่อว่า โอบามายังพอมีเวลาเรียกคะแนนนิยมกลับคืนก่อนถึงการเลือกตั้งในปี 2555 ด้วยการทำให้ประชาชนเชื่อว่าสถานการณ์ทุกกำลังดีขึ้น และผู้นำประเทศกำลังทุ่มเทเพื่อชาวอเมริกันทุกคน
โพลล์ Gallup ล่าสุดซึ่งเปิดเผยเมื่อวันพุธระบุว่า ชาวอเมริกัน 77% เชื่อว่าเศรษฐกิจปีนี้ไม่ได้ดีกว่าปีที่แล้ว และ 61% ไม่คิดว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นในปีหน้า ซึ่งข้อมูลดังกล่าวถือเป็น "ลางร้าย" สำหรับโอบามา เพราะโดยปกติแล้วชาวอเมริกันจะมองเศรษฐกิจเป็นประเด็นหลักในการตัดสินประธานาธิบดี
ชาวอเมริกันมองเศรษฐกิจในแง่บวกน้อยลงตลอด 2 ปีที่ผ่านมา และ 80% เชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันยังไม่ถึงขั้นถดถอยตามคำจำกัดความทางเทคนิคก็ตาม
อย่างไรก็ดี โอบามายังพอมีโอกาสแก้ตัว เพราะแม้คะแนนนิยมของเขาจะดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่คู่แข่งอีก 2 คนจากพรรครีพับลิกันก็ไม่ได้มีคะแนนนิยมมากไปกว่ากัน
โดยโพลล์ ABC News/Washington Post ที่เผยแพร่เมื่อวันพุธระบุว่า นายริค เพอร์รี่ และ นายมิทท์ รอมนีย์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน เป็นที่รู้จักน้อยกว่าโอบามามาก และกำลังดิ้นรนหาเสียงในหมู่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
แดน มาฮัฟฟี จากศูนย์ศึกษาว่าด้วยเรื่องประธานาธิบดีและสภาคองเกรส กล่าวว่า เหลือเวลาอีก 1 ปีกว่าจะมีการเลือกตั้ง ดังนั้นจึงไม่ควรปักใจกับผลสำรวจมากนัก อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจก็เป็นสัญญาณเตือนสำหรับผู้ลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี เนื่องจากยังมีประชาชนจำนวนมากที่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร
บทวิเคราะห์โดย แมทธิว รัสลิ่ง จากสำนักข่าวซินหัว