จากสถานการณ์น้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ ส่งผลให้ประชาชนทั่วประเทศได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ในขณะที่รัฐบาลหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนต่างเร่งให้การช่วยเหลือและเฝ้าติดตามรายงานสถานการณ์น้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นและเป็นข้อมูลในการแก้ปัญหาให้ถูกจุดทั้งในระยะสั้นและระยะยาว "สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 2,019 คน ระหว่างวันที่ 19-24 กันยายน 2554 สรุปผลได้ดังนี้
ด้านหน่วยงานที่ประชาชนพึงพอใจในการช่วยเหลือน้ำท่วม อันดับ 1 สื่อมวลชน26.88% อันดับ 2รัฐบาล25.50% อันดับ 3หน่วยงานเอกชนในจังหวัด /บริษัท /ห้างร้าน18.52% อันดับ 4อบต./จังหวัด หน่วยงานราชการ 17.34% อันดับ 5ฝ่ายค้าน11.76%
เรื่องจุดเด่นในการช่วยเหลือน้ำท่วมที่ประชาชนพึงพอใจ /ประทับใจ อันดับ 1ทั้งภาครัฐและเอกชนต่างให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยได้รวดเร็วมากขึ้น39.49% อันดับ 2การช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ เช่น การบริจาคเงิน อาหาร เสื้อผ้า ของใช้ที่จำเป็น ฯลฯ25.67% อันดับ 3ความมีน้ำใจของคนไทย /การได้รับความช่วยเหลือต่าง ๆ จากคนไทยด้วยกัน 18.11% อันดับ 4สื่อมวลชนเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือน้ำท่วมครั้งนี้อย่างมาก /ทั้งในด้านการนำเสนอข่าวสาร การตรวจสอบในเรื่องต่างๆ และพยายามเข้าถึงพื้นที่ที่ถูกตัดขาด13.09% อันดับ 5การดูแลช่วยเหลือกันเองในครอบครัว /บ้านใกล้เรือนเคียง หรือในบริเวณชุมชนเดียวกัน 3.64%
ส่วนจุดด้อยในการช่วยเหลือน้ำท่วมที่ประชาชนอยากให้เร่งแก้ไข อันดับ 1บางพื้นที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ /การช่วยเหลือไม่ทั่วถึง /อาหารและน้ำไม่เพียงพอ56.70% อันดับ 2การคาดการณ์หรือการประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้น /การแจ้งข่าว เตือนภัย เพราะกลัวว่าจะมีฝนตกลงมาอีกหรือการปล่อยน้ำจากที่อื่นมาสมทบ 27.11% อันดับ 3ขาดการเตรียมพร้อมในการรับมือกับน้ำท่วม เช่น การจัดเตรียมสถานที่รองรับหรือที่พักชั่วคราวให้กับผู้ประสบภัย 6.92% อันดับ 4การประสานงาน /การแจ้งข่าว/การติดต่อสื่อสารระหว่างหน่วยงานต่างๆกับพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมยังไม่ดีพอ 5.40% อันดับ 5เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในเรื่องน้ำท่วม เช่น กระสอบทราย ห้องส้วม สะพาน ทางเดิน เครื่องสูบน้ำ ตามพื้นที่ต่างๆ ไม่เพียงพอต่อความต้องการ 3.87%
เมื่อถามว่าประชาชนคิดว่าการวางแผนเตรียมรับมือป้องกันน้ำท่วมในกรุงเทพฯ จะสามารถป้องกันได้มากน้อยเพียงใด? อันดับ 1น่าจะป้องกันได้บ้าง59.85%เพราะ การบริหารจัดการ การระบายน้ำน่าจะทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากขึ้น ,มีเวลาในการเตรียมการมากกว่าพื้นที่อื่นๆ ฯลฯ
อันดับ 2ป้องกันน้ำท่วมได้แน่นอน24.49%เพราะ กรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงและเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญ ดังนั้นจะต้องมีการป้องกันอย่างเต็มที่ ฯลฯ อันดับ 3ไม่น่าจะป้องกันได้ 11.77%เพราะ ดูจากพื้นที่ที่ประสบภัยในจังหวัดต่างๆ ถึงจะมีการเตรียมพร้อมอย่างไร? ก็ไม่สามารถป้องกันน้ำท่วมได้ทั้งหมด ฯลฯ อันดับ 4ป้องกันไม่ได้ 3.89% เพราะ ปริมาณน้ำในปีนี้มีมากกว่าทุกปี และยังมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ,แผ่นดินทรุดตัว ฯลฯ
ต่อคำถามประชาชนอยากให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าว กรณี น้ำท่วมอย่างไร? อันดับ 1การรายงานสด นำเสนอภาพข่าวในพื้นที่ที่เดือดร้อน /สัมภาษณ์ประชาชนเพื่อรับฟังปัญหา และนำมาแก้ไขให้ตรงจุด32.22% อันดับ 2นอกจากการนำเสนอข่าวแล้ว สื่อควรเป็นตัวกลางในการรับความช่วยเหลือโดยการจัดตั้งกองทุน รับบริจาค และจะต้องชี้แจงยอดรายรับ-รายจ่ายอย่างโปร่งใส30.18% อันดับ 3รายงานข่าวรวดเร็ว /เกาะติดสถานการณ์ /ทันเหตุการณ์15.52% อันดับ 4ให้ความรู้กับประชาชนในเรื่องการป้องกันดูแลตัวเองเมื่อประสบภัยน้ำท่วมอย่างถูกต้อง โดยเชิญนักวิชาการหรือผู้ที่รู้จริงมาพูด12.95% อันดับ 5การรายงานสภาพน้ำท่วมในภาพรวมจากทุกภาคของประเทศอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง 9.13%
สำหรับคำถามแก้ไขน้ำท่วมอย่างไร? จึงจะถูกใจประชาชน อันดับ 1การชดเชย เยียวยาและฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ประสบภัยไม่ให้เกิดความเครียดหรือซึมเศร้า27.19% อันดับ 2การให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม ปลูกป่า ขุดลอกคูคลอง /ตรวจสอบความแข็งแรงของเขื่อน ฝายน้ำทุกแห่ง25.14% อันดับ 3การประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง /จัดตั้งผู้รับผิดชอบหรือศูนย์กลาง ในการดำเนินงานที่ชัดเจน22.88%
อันดับ 4การเฝ้าระวังเพื่อจะได้แจ้งเตือนภัยล่วงหน้าอย่าง ชัดเจน แม่นยำและทั่วถึงทุกพื้นที่17.23% อันดับ 5ภาครัฐต้องเอาจริงเอาจัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการบริหารจัดการเรื่องน้ำท่วมอย่างมีประสิทธิภาพ / การจัดทำแผนที่ /เส้นทางน้ำทั่วประเทศ 7.56%
ด้านบทเรียนที่ได้รับจากน้ำท่วมในครั้งนี้ คือ อันดับ 1หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีการเตรียมพร้อมที่รวดเร็วและทันสถานการณ์ เช่น การแจ้งข่าว เตือนภัย46.17% อันดับ 2การให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อไม่มีป่าไม้นอกจากน้ำท่วมแล้วยังมีดินโคลนถล่มด้วย23.91% ,อันดับ 3ประเทศชาติได้รับความเสียหาย ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน19.47% ,อันดับ 4เมื่อคนไทยประสบภาวะวิกฤต จะได้รับน้ำใจ ความช่วยเหลือต่าง ๆ จากคนไทยด้วยกัน 8.13% ,อันดับ 5ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนต้องอดทน มีสติ /มีจิตใจเข้มแข็งจนกว่าสถานการณ์น้ำจะคลี่คลาย 2.32%