นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา ในฐานะคณะทำงานด้านกฎหมาย พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้(29 ก.ย.) นายสกลธี ภัททิยะกุล คณะทำงานด้านกฎหมายจะทำหนังสือถึงนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด(อสส.) เพื่อขอเอกสารสำคัญ 3 รายการ คือ 1.สำเนาคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฎีกาคดีเลี่ยงภาษีการซื้อขายหุ้นของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
2. สำเนาความคิดเห็น อสส.ที่มีความเห็นไม่ฎีกาในคดีดังกล่าว และ 3. หนังสือของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ที่ทำหนังสือถึง อสส.เพื่อให้ยื่นฎีกาในทุกข้อหาและกับจำเลยทุกคน เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาประกอบการตัดสินใจที่จะดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดต่อไป โดยอสส.ไม่ควรอ้างว่าเป็นข้อมูลลับที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะไม่เช่นนั้นก็จะต้องใช้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ มาดำเนินการ
นายถาวร กล่าวว่า คดีลักษณะดังกล่าวตามหลักการต้องมีการฎีกา เนื่องจากความเห็นของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มีความขัดแย้งกันในประเด็นข้อเท็จจริงเรื่องกฎหมาย โดยเฉพาะในกรณีที่ศาลอุทธรณ์โต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นถึงประเด็นอำนาจในการทำหนังสือเรียกจำเลยมาชี้แจงของกรมสรรพากรไม่เป็นไปตามกฎหมายส่งผลให้คำให้การดังกล่าวของจำเลยเป็นเท็จ ซึ่งเมื่อเกิดความเห็นต่างเช่นนั้น โดยหลักจะต้องให้ศาลฎีกาเป็นผู้พิจารณาชี้ขาดเพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไป
นอกจากนี้ ประธานศาลอุทธรณ์ยังทำความคิดเห็นแย้งคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ โดยไม่เห็นด้วยกับการรอลงอาญาของนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ เพราะคดีนี้เกี่ยวข้องกับการหลบเลี่ยงภาษีที่มีจำนวนเงินสูงถึง 273 ล้านบาท ซึ่งเมื่อในหน่วยงานเดียวกันยังมีความเห็นขัดแย้งกันก็ควรจะส่งให้ศาลฎีกาเป็นผู้ชี้ขาด อีกทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่าในช่วงปี 40 อสส. มีความเห็นว่าจำเลยทั้งหมดมีความผิดจึงนำคดีขึ้นฟ้องศาล แต่ระยะเวลาผ่านไปไม่นาน อัยการสูงสุดกลับมองว่าคุณหญิงพจมาน ไม่มีความผิด
นายถาวร กล่าวว่า คดีนี้ถือว่าจบไปแล้วเนื่องจากอัยการสูงสุดไม่อุทธรณ์ภายใน 30 วัน ทำให้คดีหมดอายุความและทำให้รัฐสูญเสียรายได้ 273 ล้านบาทที่จะนำไปใช้ประโยชน์ด้านอื่น ดังนั้นสิ่งที่ทำได้คือรอให้ประชาชน 2 หมื่นคน หรือ ส.ส.จำนวน 1 ใน 4 ในสภาฯ เข้าชื่อถอดถอน อสส.
"ในฐานะที่เป็นอัยการเก่ามา 19 ปี การทำเรื่องนี้ไม่ได้เป็นการรังแกบ้านเก่า แต่ต้องการให้อัยการรักษาความเป็นธรรมให้กับคนทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนจนคนรวย จะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ไม่ว่าอำมาตย์หรือไพร่" นายถาวร กล่าว