นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเยือนพม่าของนายกรัฐมนตรีและคณะในวันที่ 5 ต.ค.นี้ว่า เป็นเรื่องที่ดีในการเยือนประเทศเมียนมาร์ในฐานะสมาชิกอาเซียนและประเทศเพื่อนบ้านเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และควรใช้โอกาสนี้หารือกับผู้นำเมียนมาร์ใน 5 ประเด็นซึ่งถือเป็นการบ้านฝากถึงนายกรัฐมนตรีให้พิจารณาดังนี้
1. ยืนยันความเป็นพันธมิตรระดับยุทธศาสตร์ (Strategic partnership)ระหว่างไทย-เมียนมาร์
2.แสดงจุดยืนที่ชัดเจนในการสานต่อนโยบายประตูตะวันตกโครงการเมกะโปรเจคทะวาย-กาญจนบุรีซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการค้าการลงทุนการท่องเที่ยวการคมนาคมและพลังงาน ของ 2 ประเทศและขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น"เอนเนอร์ยี่และโลจิสติกส์ฮับ"ของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
3. เสนอให้หยิบยกข้อริเริ่มการวางท่อแก๊สจากอ่าวเมาะตะมะตอนบนสู่ภาคเหนือของไทย
4. หารือการเปิดด่านแม่สอด-เมียวดีและการยกระดับด่านสิงขร-มู่ด่องและ ด่านพุน้ำร้อน-แม่ธะมี่เป็นด่านสากลโดยเร็ว
5. เจรจากระชับความร่วมมือ3ประเทศไทย-พม่า-อินเดียเร่งรัดโครงการ"เอเชี่ยนไฮเวย์"สร้างถนน 1,360 กม.จากไทยผ่านพม่าไปอินเดียเชื่อมอาเซียนกับเอเซียใต้
"เชื่อว่าไทยกับเมียนมาร์เป็นมิตรประเทศที่ดีต่อกัน และรัฐบาลควรใช้วาระการยือนเมียนมาร์ครั้งแรกคราวนี้หารือใน 5 ประเด็นดังกล่าวเพื่อสร้างอนาคตร่วมกันโดยเฉพาะการก้าวสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558" อดีต รมช.พาณิชย์ ในฐานะรมว.เงาพลังงาน กล่าว