ครม.แจงบทบาทอำนาจหน้าที่คกก.ประสานงาน คอป.ตั้ง"ยงยุทธ"เป็นประธาน

ข่าวการเมือง Tuesday October 4, 2011 16:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 54 มีมติเห็นชอบรายงานฉบับที่ 2 ทั้ง 7 ข้อของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ที่มีนายคณิต ณ นคร เป็นประธาน พร้อมทั้งแต่งตั้งนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประสานงานกับ คอป.นั้น โดยจะใช้ชื่อย่อ"ปคอป."

สำหรับกรรมการ ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เลขาคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม อัยการสุงสุด ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย โดยมีปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นกรรมการและเลขานุการ

บทบาทและอำนาจหน้าที่ของปคอป. ได้แก่ 1.เสนอแนะมาตรการเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและการสนับสนุนการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคอป. โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำหลักความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่านและความยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ มาใช้เป็นกลไกเสริมกระบวนการยุติรรมกระแสหลัก ซึ่งมีข้อจำกัดในการจัดการกับปัญหาความขัดแย้งที่มีสาเหตุและลักษณะที่ซับซ้อน เพื่อแก้ไขปัญหาและประคับประคองสังคม ในช่วงเวลาที่มีกาเรปลี่ยนผ่านจากความขัดแย้งของคนในสังคมไปสู่สันติภาพและความั่นคง

2. เสนอแนะมาตรการกลไกและวิธีการเพื่อส่งเสริมให้การเยียวยาและฟื้นฟุเหยื่อและผุ้เสียหาย ตลอดจนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรง หรือความขัดแย้งทางการเมืองทุกฝ่ายอย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง ทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายที่จะให้เกิดการความปรองดองในระยะยาว

3. ขอความร่วมมือหรือประสานงานกับคอป. หน่วยงานของรัฐ เอกชน ตลอดจนบุคคลทีเกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคอป. 4. ติดตามและประเมินผลการดำเนินของหน่วยงานต่างๆ ตามข้อเสนอแนะของ คอป. เป็นระยะๆ พร้อมทั้งเสนอปัญหา อุปสรรคและแนวทางแก้ไข 5. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน หรือ บุคคล เพื่อดำเนินการใด หรือตามที่คณะกรรมการกำหนด

6. เรียกให้หน่วยราชการ หน่วยงานรัฐ หรือ รัฐวิสาหกิจ ส่งเอกสารข้อมูลหรือเชิญเจ้าหน้าที่ของรัฐมาให้ข้อมูล หรือแสดงความคิดเห็นต่อคณะกรรมการ อนุกรรมการหรือคณะทำงาน และ 7. ดำเนินการอื่นที่จำเป็น เพื่อให้การปฏิบัติหน้าบรรลุผล

ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค. 54 เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น มองว่าไม่ใช่เป็นประเด็นทางการเมือง จึงได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลอีกชุดโดยเฉพาะ โดยมีรมว.ยุติธรรม เป็นประธาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ