ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ(กรุงเทพโพลล์)เผยนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีฤดูกาลผลิตปี 54/55 จะเกิดปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างแน่นอน โดยผู้ประกอบการโรงสีและไซโลจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์มากสุด ขณะที่ผู้บริโภคจะเป็นกลุ่มที่เสียผลประโยชน์มากสุด พร้อมทั้งเห็นว่าโครงการประกันราคาข้าวที่ดำเนินการในรัฐบาลชุดก่อนดีกว่าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลชุดนี้
"นักเศรษฐศาสตร์ 82.1% เชื่อโครงการรับจำนำข้าวเปลือกจะมีการคอร์รัปชั่นอย่างแน่นอน, 86.6% ระบุโรงสี/ไซโล คือ กลุ่มได้รับผลประโยชน์มากที่สุด, 74.6% เชื่อผู้บริโภค คือ กลุ่มผู้เสียผลประโยชน์มากที่สุด, 59.7% ยืนยันโครงการประกันราคาดีกว่าโครงการรับจำนำ" เอกสารเผยแพร่ ระบุ
นักเศรษฐศาสตร์ 50.75% เชื่อว่าราคารับจำนำข้าวเปลือกที่ชาวนาได้รับจะต่ำกว่าราคาที่รัฐบาลประกาศไว้ และ 56.7% เชื่อว่า มีโอกาสน้อยที่ราคาข้าวสารในตลาดโลกโดยรวมในปี 2555 จะสูงกว่าราคาที่รัฐบาลจะขาย โดยกลุ่มผู้ได้รับผลประโยชน์มากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ โรงสี/ไซโล, นักการเมือง และผู้ส่งออก ส่วนกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์มากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ ผู้บริโภค, ชาวนา และรัฐบาล
นักเศรษฐศาสตร์ 59.37% เสนอให้ รมว.พาณิชย์ การแก้ไขปัญหาราคาข้าวด้วยการกลับไปใช้วิธีประกันราคาในระดับที่เหมาะสมกับต้นทุนที่ทำในสมัยรัฐบาลก่อน เพราะด้วยภาระต้นทุนของรัฐที่ใกล้เคียงกัน แต่การประกันราคาทำให้เกษตรกรได้รับผลประโยชน์โดยตรงและครบถ้วน ช่วยส่งเสริมการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตของเกษตรกรอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์ยังเสนอให้มีการบริหารจัดการที่รัดกุมป้องกันทุจริต โดยการรวบรวมสาเหตุที่โครงการรับจำนำข้าวในอดีตขาดทุนแล้วกำหนดมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ เช่น ปัญหาการสวมสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ หรือโรงสีนำข้าวเปลือกจากชาวนาหมุนเวียนเข้าร่วมโครงการ เป็นต้น และควรใช้แนวทางตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อลดต้นทุนการปลูกข้าว พัฒนาผลผลิตต่อไร่ พัฒนาคุณภาพข้าว เป็นต้น
อนึ่ง กรุงเทพโพลล์สำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ที่ทำงานอยู่ในหน่วยงานด้านการวิเคราะห์ วิจัยเศรษฐกิจระดับชั้นนำของประเทศ 31 แห่ง จำนวน 67 คน เรื่อง "อนาคตโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี:ใครกำไร ใครขาดทุน?" โดยเก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 26 ก.ย.- 3 ต.ค.ที่ผ่านมา