นายสกลธี ภัททิยกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่มาตอบกระทู้ถามสดของนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการมีผลประโยชน์ขัดกันของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ในกรณีนโยบายบ้านหลังแรกที่เอื้อประโยชน์กับ บมจ. เอสซี แอสเซท คอร์ปอเรชั่น (SC) เพราะเป็นเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องการที่จะถามต่อตัวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ เองเป็นการเฉพาะ เนื่องจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ เคยเป็นผู้บริหารบริษัทดังกล่าวมาก่อนที่จะประกาศลาออกมาลงสมัครรับเลือกตั้งก่อนที่จะได้ตำแหน่งนายกฯ ว่า ถือว่า นายกฯ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการทำหน้าที่ของส.ส.ในสภาฯ
ทางพรรคฯ จึงขอเรียกร้องให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ในฐานะที่เป็นผู้นำรัฐบาลให้ความสนใจงานของสภาฯ โดยการมาตอบกระทู้ถามของสภาผู้แทนราษฎรด้วย ไม่ใช่จะมาตอบกระทู้เฉพาะประเด็นที่ได้มีการเตรียมคำถามคำตอบเอาไว้แล้ว และทราบมาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ได้หนีการตอบกระทู้ถามของสมาชิกวุฒิสภาเช่นกัน ทำให้พี่น้องประชาชนอาจต้องข้อสังเกตได้ว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์มีผลประโยชน์ขัดกันจริงๆ หรือไม่ จึงได้ไม่กล้ามาตอบกระทู้ถามของสมาชิกในสภาฯ ในประเด็นดังกล่าว
"ไม่อยากเห็นน.ส.ยิ่งลักษณ์ทำเหมือนพี่ชายที่เป็นอดีตนายกฯ ที่ไม่เคยสนใจมาตอบกระทู้และข้อซักถามของสมาชิกเลยในประเด็นเรื่องผลประโยชน์ขัดกัน"
นอกจากนี้ นายสกลธี ยังกล่าวถึงกล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายกฏหมายพรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนไหวกดดันเป็นระบบเพื่อจะแก้ไข พ.ร.บ.จัดระเบียบข้าราชการกระทรวงกลาโหม 2551 ว่า พฤติกรรมของกลุ่มคนเหล่านี้ทำเป็นกระบวนการสอดทั้งฝ่ายกฎหมาย ทีมโฆษกพรรคเพื่อไทยและแกนนำคนเสื้อแดงที่มีกิจกรรมเพื่อเป็นข่าวกดดันรายวัน โดยอ้างถึงความไม่ชอบธรรมของที่มาว่ามาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และอ้างว่าฝ่ายการเมืองไม่มีสิทธิเข้าไปวางคนของตนเองในตำแหน่งที่ต้องการ
"ทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงความต้องการเข้าไปแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการทหาร เพราะหลังจากที่รัฐบาลนี้เข้าบริหารราชการเพียง 2 เดือนเศษ รัฐบาลนี้ตีแตกกลุ่มข้าราชการประจำเช่นเดียวกับสมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เคยทำ โดยมีการแทรกแซงแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการประจำจำนวนมาก เหลืออีกไม่กี่หน่วยงานที่ไม่สามารถเข้าไปปู้ยี่ปู้ยำได้ดั่งใจ คือ องค์กรทหาร และศาลยุติธรรม"
นายสกลธี กล่าวต่อว่า โดยในส่วนของทหารในอดีตฝ่ายการเมืองก็เคยเข้าไปยุ่งวุ่นวายวางเครือข่ายเครือญาติและเพื่อนพ้องจนกองทัพเกือบพังพินาศมาแล้วครั้งหนึ่ง วันนี้ทหารมืออาชีพได้ฟื้นทำกองทัพให้เป็นปึกแผ่นทำงานสนองนโยบายรัฐบาลในการช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมเกือบทุกจังหวัด จึงไม่เห็นความจำเป็นในการเข้าไปวุ่นวายแทรกแซงในกองทัพ
ดังนั้น จึงชัดเจนว่าความพยายามที่จะแก้ไขกฏหมายนี้ก็เพียงเพื่อเข้าไปวางคนของตัวเองเพื่อเป็นฐานอำนาจทางการเมืองเท่านั้น และพรรคขอให้กำลังใจทหารทุกนายที่กำลังทำหน้าที่ทั้งป้องกันความมั่นคงและช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้ว่าอย่าได้หวั่นไหวกับกระแสสร้างปมขัดแย้งในสังคมไทยเพิ่มของกลุ่มคนเสื้อแดงและพลพรรคเพื่อไทย