นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ที่ประชุมวิปฝ่ายค้านได้ตั้งข้อสังเกตการจัดทำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 จำนวน 2.3 ล้านล้านบาท ของรัฐบาลไว้ 3 ประเด็น คือ 1.รัฐบาลประเมินรายได้สูงเกินจริงเพราะขณะนี้เกิดภาวะน้ำท่วม ซึ่งรัฐบาลชุดที่แล้วได้คาดการณ์รายได้ปี 2555 ไว้ที่ประมาณ 1.9 ล้านล้านบาท ซึ่งยังไม่เกิดวิกฤติน้ำท่วม แต่รัฐบาลชุดนี้เกิดวิกฤติน้ำท่วมกลับประเมินรายได้สูงถึง 1.98 ล้านล้านบาท ประกอบกับธนาคารแห่งประเทศ(ธปท.) เคยประเมินตัวเลขจีดีพีไว้ที่ 4.1% แต่ขณะนี้ได้ปรับลดลงมาเหลือ 2.6% ดังนั้นเมื่อตัวเลขจีดีพีมีแนวโน้มจะปรับลดลง
"เท่ากับว่ารายได้ควรต้องลดลงตามไปด้วย และเมื่อดูในรายละเอียดยังพบว่ามีแต่โครงการประชานิยม ซึ่งจะต้องใช้เงินจำนวนมาก จึงเป็นไปได้ยากที่จ้เพิ่มรายได้ตามที่รัฐบาลประมาณการไว้ ดังนั้นคาดว่างบฯ 2555 งบฯจะขาดดุลมากกว่า 4 แสนล้านบาท ทำให้รัฐบาลต้องมีมาตรการรีดภาษีขนานใหญ่ ไม่ต่างอะไรจากการถอนขนห่านหรือกู้เงินเพิ่มขึ้น" นายจุรินทร์ กล่าว
ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า 2.ภาครายจ่าย เป็นการตั้งงบประมาณแบบน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง เน้นการจัดสรรงบประมาณเพื่อทำประชานิยมมากกว่าแก้วิกฤติน้ำท่วม และยังทำเหมือนอยู่ในภาวะปกติมากกว่าภาวะวิกฤติ 3.การจัดงบฯสำหรับแก้ปัญหาน้ำท่วม 1.2 แสนล้านบาท เอาไว้ในงบกลางไม่มีรายละเอียด ทั้งที่การจัดงบกลางควรจะไว้ในกระทรวงต่างๆ เพื่อให้มีรายละเอียดแบบแผนและการเยียวยาฟื้นฟู โดยไม่ควรทำถ้าไม่จำเป็น เพราะการตรวจสอบทำได้ยากเหมือนลักษณะงบล่ำซ้ำ
ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า รัฐบาลเปิดช่องโหว่ทุจริตอย่างที่เห็นในปัจจุบัน อาทิ การจัดซื้อถุงยังชีพ ส้วมกระดาษ หรือเรือที่แพงเกินจริง ส่วนกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) หลังน้ำลดนั้นเป็นเพียงการหาแพะรับบาป เพราะปัญหาที่แท้จริงอยู่ที่ตัวนายกรัฐมนตรีที่แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่มีฝีมือ และไม่มีความสามารถในการบริหารราชการแผ่นดินที่จะแก้วิกฤติของประเทศได้