ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่ออภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 179 กรณีภัยพิบัติอันเนื่องมากจากอุทกภัยว่า กรณีที่หลายฝ่ายต้องการให้ใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน มาใช้ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมนั้น ตนเป็นผู้เสนอในที่ประชุมครม.ว่าไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายฉุกเฉินไปสู้กับน้ำ เพราะการออกกฎหมายฉุกเฉินมาใช้มีวัตถุประสงค์เน้นการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับความั่นคงแห่งรัฐ แม้จะมีบททั่วไปเกี่ยวกับการแก้ไขพิบัติภัยสาธารณะแต่มีเพียงเล็กน้อย โดยเห็นว่าควรจะใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แทนจะเหมาะสมกว่า
นอกจากนี้ หากพิจารณาโทษแล้วจะเห็นว่าหากฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จะจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี แต่ถ้าฝ่าฝืน พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะมีบทลงโทษเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ดังนั้นจะเห็นว่าการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมโดยไม่ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เป็นสิ่งที่ถูกทางแล้ว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ส่วนที่มีการระบุว่าช่วงเกิดอุทกภัยไม่ได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ตนได้เตรียมการประชุมหน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อบูรณาการการทำงาน โดยสตช.จะดำเนินการดูแลตามแนวทางของนายกรัฐมนตรี โดยในเขตนครบาลใช้กำลังเจ้าหน้าที่กว่า 4,754 นายดูแล จึงขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานเต็มที่