นายสถาพร มณีรัตน์ ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย(พท.) พร้อมด้วย ส.ส.พท.รวม 20 คน ร่วมลงชื่อเตรียมเสนอญัตติด่วนต่อสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง ขอให้ตั้งคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาเพื่อย้ายเมืองหลวงจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดอื่นๆ ที่มีความเหมาะสม โดยจะเสนอให้วิปรัฐบาลพิจารณาภายในวันที่ 16 พ.ย.นี้เพื่อเสนอเป็นญัตติเร่งด่วน
โดยญัตติดังกล่าวระบุว่า ด้วยสภาวะแวดล้อมของโลกและของประเทศไทยที่เปลี่ยนแปลงไปหลายด้าน ส่งผลให้เกิดวิกฤตภัยธรรมชาติทั้งการเกิดน้ำท่วม แผ่นดินทรุด รอยเลื่อนแผ่นดินไหว ภัยสึนามิ และจะต้องใช้งบประมาณฟื้นฟูสภาพเป็นจำนวนมหาศาล จากกรณีข้อเท็จจริงดังกล่าวซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ว่า กทม.ที่เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย แผ่นดินทรุดโดยเฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 20 ซม. ประกอบกับภาวะโลกร้อนทำให้น้ำทะเลหนุนสูงขึ้น จึงมีความเป็นไปได้ที่ กทม.จะกลายเป็นเมืองบาดาล ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายและความเดือดร้อนแก่ประชาชนและบ้านเรือนที่อยู่อาศัยในเขต กทม.ได้
จากสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นจึงเห็นได้ว่าควรมีการพิจารณาศึกษาการย้ายเมืองหลวงจาก กทม.ไปยังพื้นที่เหมาะสม เช่น จ.นครนายก เพชรบูรณ์ หรือจังหวัดอื่นที่มีความเหมาะสมต่อไป เพื่อเตรียมการและรับมือแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต
นายสถาพร กล่าวว่า ญัตตินี้พรรคได้รับหลักการให้เสนอตามที่ ส.ส.ได้เข้าชื่อเสนอ ให้เป็นเรื่องของสภาฯ โดยแนวคิดย้ายเมืองหลวงนั้น สมัยรัฐบาลทักษิณเคยมีแนวคิดจะย้ายไปยัง จ.นครนายก และสั่งการให้สภาพัฒน์ฯไปศึกษาข้อมูลเบื้องต้นแล้ว เพราะ จ.นครนายก มีความเหมาะสมทั้งทางกายภาพและภูมิศาสตร์ พื้นที่เป็นแนวลาดชัน หากน้ำมาก็จะไหลระบายได้เร็ว ไม่เหมือนกับ กทม.ที่เป็นแอ่ง น้ำมาจึงเป็นพื้นที่รับน้ำอย่างเดียว
นอกจากนี้ การย้ายเมืองหลวงไปแห่งใหม่ดีกว่าจะไปทำนิวไทยแลนด์อยู่แล้ว มองทั้งเชิงโครงสร้างและแผนงานยังไงก็คุ้มค่ากว่า กทม.จะมีอะไรเป็นนิวได้อีก เราควรวางแผนสร้างความหวังให้ประชาชนใหม่ นครนายก เหมาะสม ไปถึงก็วางโครงสร้าง ผังเมืองใหม่ ทั้งส่วนราชการ ศูนย์กลางเศรษฐกิจ หรือแม้แต่การขนส่ง ระบบคมนาคม ก็ไปทำรถไฟความเร็วสูงเชื่อมไปภูมิภาคตะวันออก เหนือ อีสาน หรือแม้กระทั่งทำรถไฟความเร็วสูงมายังสนามบินสุวรรณภูมิก็ไม่ไกลมาก กลับมา กทม.ก็ห่างกันเพียง 40 กม.เท่านั้น ส่วนนิคมอุตสาหกรรมหากคิดระยะยาวก็กระจายให้มาอยู่รอบนอก ทั้งสระบุรี ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทราก็ได้ ส่วนแนวคิดไปใช้จังหวัดเพชรบูรณ์นั้นก็เหมาะสมเช่นกัน ทั้งทางภูมิศาสตร์และกายภาพ ไม่อย่างนั้นยุคจอมพล ป.พิบูลย์สงคราม คงไม่มีแนวคิดจะย้ายเมืองหลวงไปหรอก เช่นเดียวกันกับยุคคอมมิวนิสต์ถ้าไม่ดีจริง คงไม่ยึดเป็นฐานที่มั่น
"เราต้องสร้างแนวคิดใหม่ จุดให้เป็นประเด็นใหญ่ให้เป็นเรื่องทอล์กออฟเดอะทาวน์ไปเลย ใครไม่เชื่อก็อย่าเชื่อนะ กทม.เคยมีคำทำนายว่า กทม.จะจมบาดาลอีก 10 ปี เราจึงต้องย้ายไปที่แห่งใหม่" นายสถาพร กล่าว