นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรฯ ได้ยกเลิกการไปรวมตัวกันที่หน้าสำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกาในวันนี้ตามที่ได้มีการนัดหมายกันไว้เดิม หลังจากที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม แถลงยืนยันว่าจะยังคงใช้ ร่างพ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษตามฉบับ พ.ศ.2553 ที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำไว้ ซึ่งถือว่าเป็นร่างที่เคยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯมาแล้ว
"แม้จะยังไม่มีความชัดเจน แต่ก็ต้องถือว่าเป็นสัญญาณแรกที่รัฐบาลประกาศอย่างชัดเจนว่า จะไม่มีร่างกฎหมายที่เอื้อประโยชน์ให้กับคุณทักษิณ หลังจากนี้เราก็ต้องเฝ้าระวังว่าสิ่งที่จะเกิดตามมาเป็นไปตามที่คุณประชาได้พูดไว้หรือไม่ ทั้งในขั้นตอนการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือการยื่นกฎหมายอื่นให้กฤษฎีกาฯพิจารณาต่อไป เราจะติดตามอย่างใกล้ชิด" นายปานเทพ ระบุ
พร้อมย้ำว่า การที่พันธมิตรฯ จะประกาศชุมุนมหรือยุติการชุมนุมจะเป็นไปตามสัจจะวาจาที่เคยให้ไว้ โดยจะมี 2 เงื่อนไขที่ทำให้พันธมิตรฯ ออกมาชุมนุม คือ มีกระบวนการจาบจ้วงทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ และมีกระบวนการที่จะนิรโทษกรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และเมื่อรัฐบาลถอนตัวกลับ ก็จะถือว่าหมดเงื่อนไขในเรื่องนี้ แต่หากผลสุดท้ายไม่เป็นไปตามที่ พล.ต.อ.ประชา ได้ประกาศไว้นั้น เชื่อว่าจะทำให้เงื่อนไขร้ายแรงขึ้น
"การตระบัดสัตย์ การให้ข้อมูลเป็นเท็จ และการดำเนินการที่ทำให้ประชาชนหลงเข้าใจผิดในเรื่องของข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพระราชอำนาจ หรือมีการถวายคำแนะนำที่ไม่ถูกต้อง จะทำให้รัฐบาลหมดความชอบธรรม และทำให้สถานภาพการชุมนุมมีความชอบธรรมมากขึ้น อาจถึงขั้นการยกระดับขับไล่รัฐบาลได้ในอนาคต" โฆษกพันธมิตรฯ กล่าว
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงย้ำว่า สิ่งที่จะทำให้พันธมิตรฯ ออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวมีอยู่ 2 ประการ คือ การไม่หยุดยั้งขบวนการจาบจ้วงสถาบัน และการที่รัฐบาลดำเนินการในวิถีทางที่จะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมาประเทศไทยโดยไม่ผิดกฎหมาย โดยในส่วนของขบวนการจาบจ้วงสถาบันนั้น กลุ่มพันธมิตรฯ กำลังรอรวบรวมหลักฐานให้มากกว่านี้ และจะยื่นข้อเสนอให้กับรัฐบาลในคราวเดียว
"เรากำลังรอหลักฐานให้มีมากกว่านี้ แล้วเราจะยื่นข้อเสนอทีเดียวให้กับรัฐบาล จะให้เวลารัฐบาลไม่เกิน 14 วัน หากไม่หยุดยั้งขบวนการจาบจ้วงซึ่งประกอบด้วยเว็บไซต์ต่างๆ และคนของพรรคเพื่อไทย เราก็จะยืนยันว่าเราจะชุมนุมเรื่องนี้ด้วย เรื่องที่สองคือ เมื่อใดก็ตามที่รัฐบาลดำเนินวิถีทางที่จะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมาประเทศไทยโดยไม่ผิดกฎหมายเลย เรื่องนี้เราจะไม่ยอมเด็ดขาด" นายสนธิกล่าว
พร้อมระบุว่า จากข้อมูลที่สืบทราบมาพบว่าในร่างพระราชกฤษฎีกาที่รัฐบาลจะส่งไปให้สำนักงานกฤษฎีกาพิจารณานั้น มีข้อความที่ระบุชัดว่าแม้กระทั่งคนที่ไม่ได้ติดคุกอยู่ก็สามารถจะได้รับการพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งตรงนี้พันธมิตรฯ ยอมไม่ได้ เพราะเป็นการทำลายหลักนิติรัฐ
นายสนธิ ยังตั้งข้อสังเกตถึงกระบวนการเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษว่า ในข้อเท็จจริงแล้วกระบวนการนี้ต้องถูกตั้งเรื่องจากกระทรวงยุติธรรม เพราะฉะนั้นแล้วพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ วันนี้ทุกคนได้ตั้งเป้า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี แต่จริงๆ แล้วเรื่องต้องมาจาก พล.ต.อ.ประชา ฉะนั้นทั้ง ร.ต.อ.เฉลิม และ พล.ต.อ.ประชา แข่งกันทำคะแนนเพื่อหวังว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อาจจะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว สองคนนี้จะชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทน