พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงพระราชกฤษฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษว่า อยู่ในขั้นตอนเตรียมนำขึ้นทูลกล่าวเพื่อทรงลงปรมาภิไธยให้มีผลทันในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 โดยยืนยันว่าการจัดทำกฎหมายดังกล่าวไม่มีอะไรผิดปกติ ทุกอย่างเป็นตามขั้นตอนในวโรกาสพิเศษเหมือนปี 2547 และ ปี 2553 ผู้ที่จะได้รับประโยชน์คือ ผู้ต้องขัง 2.6 หมื่นคน
"ก็พูดกันไปเอง ทำไมไม่มาถามผม คนยกร่าง เรื่องนี้คิดมากกันไปเองก็เลยเป็นเรื่อง"พล.ต.อ.ประชา กล่าว
ทั้งนี้ เนื้อหาสาระของพระราชกฤษฎีกาจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง จึงไม่มีผลให้เกิดความแตกแยกในสังคม โดยยืนยันว่าทุกอย่างเป็นเรื่องถูกต้อง อีกทั้งตนเองมีฐานะเป็นราชองครักษ์พิเศษ มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างแน่นอน
ส่วนการถวายฎีกา 3 ล้านคนของกลุ่มคนเสื้อแดงเพื่อขออภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชิรวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบ คาดว่าจะใช้เวลาอีกไม่นานให้เกิดความรอบคอบ
พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า สาเหตุที่วันนี้ออกมาพูดเรื่องนี้ เนื่องจาก นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน ในฐานะแกนนำกลุ่มเสื้อหลากสีออกมายื่นหนังสือคัดค้านการออกกฎหมายดังกล่าว
นอกจากนี้ นพ.ตุลย์ยังได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรว่า จดหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการแสดงอย่างชัดแจ้งว่าไม่เคยสำนึกในความผิดที่ได้กระทำในช่วงที่ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ พ.ศ. 2544 ทั้งการปรับเปลี่ยนกระทรวงทบวงกรม และแก้ไขสัมปทานต่าง ๆ มีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ และผู้บริหารตำแหน่งต่าง ๆ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้อง เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นกันอย่างมหาศาล จนศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้พิพากษายึดทรัพย์ไปแล้วกว่า 4 หมื่นล้านบาท
"คุณยังไม่เคยยอมรับว่าตนเองได้กระทำการทุจริตต่าง ๆ มีการก่อตั้งกลุ่มคนเสื้อแดงมาสนับสนุน ชุมนุมด้วยความรุนแรงก่อความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสต่อประชาชนทั่วไป โดยคุณให้การสนับสนุนเร่งเร้าให้เกิดความรุนแรง เพียงเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง"
จนล่าสุด น้องสาวได้เป็นนายกรัฐมนตรี ที่แม้จะพยายามปฏิเสธว่าไม่คิดทำเพื่อคน ๆ เดียว แต่ในที่สุดคณะรัฐมนตรีก็ไม่สนใจในความทุกข์ยากของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากมหาอุทกภัย กลับมีความพยายามช่วยเหลือให้กลับสู่เมืองไทย โดยไม่ต้องถูกจำคุก ไม่ว่าจะเป็นการถวายฎีกา 3 ล้านรายชื่อ พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พระราชบัญญัติล้างมลทิน และพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม
"คุณจะต้องแสดงออกถึงการสำนึกผิด โดยการกลับสู่เมืองไทยรับโทษที่ถูกพิพากษาไว้แล้ว และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในคดีที่เหลืออยู่ พร้อมทั้งกำราบคนของคุณให้ยุติความรุนแรงและการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถด้วย เพียงเท่านี้ผมก็พร้อมจะ "Forgive & Forget" ความผิดของคุณ"นพ.ตุลย์ ระบุ