นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เรียกร้องรัฐบาลให้ความสำคัญกับภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพราะที่ผ่านมารัฐบาลยังไม่ใส่ใจกับการฟื้นฟูการท่องเที่ยวเท่าที่ควร เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นอาจจะมองเห็นไม่ชัด เพราะไม่ได้เกิดความเสียหายโดยตรงในเชิงทรัพย์สินเหมือนภาคอุตฯอื่นๆ แต่มีความสูญเสียทางด้านธุรกิจอย่างมาก
ในขณะที่การลงทุนเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นไม่ต้องใช้เงินลงทุนสูงเพราะเป็นเรื่องของการบริหารจัดการและส่งสัญญาณที่จะช่วยให้ประเทศมีรายได้กลับเข้ามาอย่างรวดเร็ว เพราะผลกระทบจากอุทกภัยทำให้ยอดนักท่องเที่ยวที่วางเป้าหมายไว้ 19.6 ล้านคนหายไป 1 ล้านคน
ดังนั้นหากรัฐบาลมีการสื่อสารเพื่อส่งสัญญาณให้ต่างชาติเห็นว่าประเทศอยู่ในภาวะฟื้นตัวโดยอาจจัดงานของรัฐบาลในพื้นที่การท่องเที่ยวก็จะเป็นโอกาสสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยหลังน้ำท่วมควบคู่ไปด้วย
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวยังมีความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการเมืองที่อาจมาเป็นปัญหาซ้อนกับปัญหาอุทกภัย โดยผู้ประกอบการหลายรายเห็นว่าภัยธรรมชาติยังเป็นเรื่องที่รับได้เพราะมาแล้วก็ไป แต่วิกฤตการเมืองยังเป็นปัญหาที่เรื้อรังของสังคมไทย อย่างไรก็ตามไม่ได้มีการลงรายละเอียดในเรื่องการเมืองที่ภาคอุตฯ ท่องเที่ยวมีความเป็นห่วง
ส่วนมาตรการของรัฐบาลในการกระตุ้นการท่องเที่ยวยังดำเนินการแบบทั่วไป จึงไม่ได้ช่วยผลักดันการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวเท่าที่ควร สิ่งที่ตนเองเห็นว่าควรจะดำเนินการได้ทันทีคือการช่วยส่งสัญญาณ และมาตรการการเยียวยาที่รัฐบาลชุดที่แล้วเคยทำเช่นการลดภาระให้ผู้ประกอบการ ทั้งด้านสิทธิภาษี หรือการดูแลเรื่องสินเชื่อ โดยรัฐบาลที่ผ่านมาทำได้ผลในการฟื้นฟูหลังผ่านวิกฤตหลายรอบ และหลังจากเกิดปัญหาอุทกภัยก็ต้องมีการลงทุนเกี่ยวกับเรื่องรถโดยสารที่มีความสูญเสียอย่างมาก จึงมีความจำเป็นต้องลงทุนใหม่ แต่ยังมีความยากลำบากในเรื่องเงินทุน รัฐบาลจึงควรให้ความสนับสนุน
"ในวันพรุ่งนี้ผู้บริหารพรรคจะพบกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และจะสรุปข้อเสนอทั้งหมดหลังจากที่เดินสายพบกับสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อสรุปเป็นข้อเสนอต่อรัฐบาลและจะทำงานผ่านกรรมาธิการงบประมาณด้วย" นายอภิสิทธิ์ กล่าว