นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน สส.พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนนตรี เรื่องปัญหาน้ำท่วมว่า รัฐบาลได้ปล่อยปละละเลยให้น้ำท่วมเรื้อรัง จนกระทบต่อครัวเรือน 4 ล้านคน ประชาชน 13 ล้านคน เสียชีวิต 606 คน ถ้า ศูนย์ปฎิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) มีมาตรการป้องกันดีกว่านี้ ประชาชนจะไม่ถูกไฟดูดถึง 102 คน
ปัจจุบันยังมี 17 จังหวัดที่น้ำท่วม ความเดือดร้อนในตอนเหนือกรุงเทพ ปทุมธานี นนทบุรี และในกรุงเทพ ดอนเมือง หลักสี่ ฝั่งธน การบริหารจัดการของศปภ.ปล่อยปละ ไม่มีมาตรการเตือนภัยให้ประชาชนทราบล่วงหน้าประชาชนตองอพยพเหมือนสงคราม
"วันนี้น้ำท่วมมากกว่า 1 เดือน ระดับน้ำสูง 1-2 เมตร ประชาชนไม่สามารถอพยพไปยังศูนย์พักพิงเพราะห่วงทรัพย์สินในบ้านพัก เมื่อตรวจสอบพบว่า ขณะนี้มีหมู่บ้านที่จมน้ำ โดยเฉพาะเขตอ.ลำลูกกา รังสิต หลักหก เมืองเอก และ นนทบุรี บางบัวทอง บางกรวย ไทรใหญ่ ไทรน้อย มีมากกว่า 143 หมู่บ้าน ได้รับความเดือดร้อนหลักแสนคนไม่สามารถสัญจรเดินทางได้ อยากถามว่า รัฐบาลมีมาตรการดูแลความปลอดภัย การดำรงชีพของประชาชนเราเห็นภาพจากมูลนิธิอาสาสมัคร แต่เราไม่เห็นศปภ.เข้าไปดูแล
นายอภิรักษ์ ยังถามว่า รัฐบาลมีนโยบายจะช่วยเหลือค่าเยียวยาให้บ้านหลังแรกของประชาชนที่น้ำท่วมอย่างไร เพราะประชาชนต้องผ่อนบ้านและซ่อมแซมบ้านเรือนที่ถูกท่วมขัง ค่าเยียวยา 5 พันบาท พอหรือไม่เพราะเป็นเงื่อนไขที่น้ำท่วมขังเกิน 7 วัน แต่วันนี้มีน้ำท่วมขังเกิน 1 เดือน การเยียวยาบ้านที่ท่วมมากกว่า 1 เดือน ควรเพิ่มเป็น 1-1.5 หมื่นบาท หรือ บ้านถูกน้ำล้อมติดเกาะ แฟลตอาคารสูงแม้น้ำไม่ท่วมแต่น้ำท่วมขังบริเวณรอบ รัฐบาลจะช่วยเหลืออย่างไร
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีไม่เดินทางมาตอบคำถามดังกล่าว แต่มอบหมายให้นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข ชี้แจงว่า มติครม.จ่ายให้กทม.ทุกเขต รอการยืนยันจากเจ้าพนักงานเขตแต่ละเขต โดยปภ. มีกฎเกณฑ์บ้านหลังไหนเสียหายบางส่วนจ่าย 2-3 หมื่นบาท ทราบว่า วันนี้ปภ.ส่งมอบเงินให้กทม.บางส่วน 50 ล้านสำหรับการเยียวยา สำหรับกระทรวงพัฒนาสังคม ได้ดูแลเรื่องการเสียชีวิต 606 คน
"เรียนตามตรงไม่น่าเชื่อว่าจะมีผู้เสียชีวิตโดยว่ายน้ำไม่เป็น และถูกไฟช็อต มีทั้งอุบัติเหตุและประมาทส่วนตัว รัฐบาลจ่ายหัวหน้าครอบครัวจ่ายให้ 5 หมื่นบาท ส่วนผู้สูงอายุ ผู้พิการ หรือ หัวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บได้รับเงินไม่เกิน 5 พันบาทต่อครอบครัว ...บ้านพัง จ่ายตามจริง ไม่เกิน3 หมื่น เสียหายบางส่วน 2 หมื่น ทรัพย์สินเสียหายไม่เกิน 1 หมื่นบาท" รมว.สาธารณสุข กล่าว
ด้านนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ชี้แจงว่า การแก้ปัญหาน้ำในฝั่งตะวันออก และตะวันตก ศปภ.ได้จัดการตั้งแต่จังหวัดต้นน้ำ น้ำมาจากส่วนบน จากจุดเริ่มต้นแม่น้ำเจ้าพระยาคือ นครสวรรค์ไหลมาจ.นนทบุรี ปทุมธานี น้ำที่มาสองฝั่งเป็นน้ำที่มามากล้นตามคลองต่างๆ ทำให้คนนนทบุรี ปทุมธานี กรุงเทพเดือดร้อน ศปภ.ดูว่า ตรงไหนสามารถระบายน้ำได้เพื่อไม่ได้ให้กระทบกรุงเทพชั้นใน
พร้อมกันนี้ ยืนยันว่า กทม.ต้องการอะไร รัฐบาลจัดหาให้หมด โดยเฉพาะเครื่องสูบน้ำ เราพยายามติดตั้งตามที่ผอ.ระบายน้ำขอ ฝั่งตะวันตก เราเตรียมการเช่น จ.สมุทรสาครเตรียมการรองรับระบายน้ำไว้หมด แต่คลองมหาสวัสดิ์ คลองทวีวัฒนา น้ำมันออกระบบ มาในปริมาณมาก ทำให้คนริมคลองเหล่านั้นเดือดร้อน
"ปีนี้ต้องยอมรับว่า น้ำเกิดจากฝนตกจากภาคเหนือ และไหลลงสู่ทะเล น้ำมากเกินขนาด ฝนตกมากเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ก่อนที่รัฐบาลนี้จะมาบริหารประเทศ แต่เป็นช่วงที่รัฐบาลอภิสิทธิ์รักษาการ แต่เราไม่อยากโทษใคร ขณะนั้นน้ำมันก็ล้นคลอง แต่วันนี้เราก็พยายามจัดการบริหารจัดการน้ำลงทะเลให้เร็วที่สุด รัฐบาลเตรียมการในส่วนของท้ายน้ำสมุทรสาครหมดแล้ว และเตรียมเครื่องสูบน้ำระบายน่ำลงสู่ทะเลแล้ว ฝั่งตะวันออกเราก็ติดตั้งเครื่องสูบน้ำลงสู่สมุทรปราการและเพื่อลงทะเล"นายปรีชา กล่าว
ขณะที่พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการ ศปภ.ชี้แจงว่า ที่ผ่านมา ศปภ.กับ กทม. มีการปรึกษาหารือกับตลอด ในการแก้ปัญหาน้ำท่วม ปัญหาคือประชาชนที่อยู่เหนือน้ำและใต้น้ำ
"เหนือน้ำก็อยากให้ปล่อยเพราะน้ำเสีย เน่า เหม็น มีเชื้อโรค อยากระบายน้ำ แต่ถ้าเราปล่อยน้ำ ไปเราก็เหมือนเอาปัญาหาไปเพิ่มกับคนข้างล่างเพิ่มขึ้น สภาพเป็นอย่างนั้นจริงๆ เครื่องสูบน้ำของกทม.ก็ขาดแคลน เราสนับสนุนให้ 100 เครื่อง รวมถึงสั่งจากต่างประเทศ เพราะเราต้องการแก้วิกฤตชาติร่วมกัน คนกรุง และปริมณฑลกำลังทุกข์ ถ้าจะเอาทุกข์จากปริมณฑลไปให้กทม. ก็ต้องระมัดระวังเหมือนกัน"พล.ต.อ.ประชา กล่าว