นายโสภณ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย(ภท.) ในฐานะอดีต รมว.คมนาคม ปฏิเสธข้อกล่าวหากรณีพรรคเพื่อไทยตั้งกระทู้ถามสดในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 24 พ.ย.54 พาดพิงว่าตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม แต่การกระทู้สดดังกล่าวถือว่าเป็นการจัดฉากสร้างละคร โดยใช้ที่ประชุมสภาฯ อันทรงเกียรติเป็นเครื่องมือในการสร้างละครเพื่อกลบ 2 ประเด็น คือ 1.การตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม 2.การอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านในเรื่องเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่มีการทุจริต
"ตอนนี้เราต้องให้กระบวนการตรวจสอบดำเนินการต่อไป โดยเฉพาะประเด็นว่านายสุพจน์มีการทุจริตหรือไม่ แทนการออกมากล่าวหาลอยๆ แบบนี้ โดยมีการพูดกันจนคนเชื่อแล้วว่านายสุพจน์มีเงินมากมาย ดังนั้นต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการพิสูจน์ เช่นเดียวกับต้องให้โอกาสนายสุพจน์พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองก่อนด้วย" นายโสภณ กล่าว
ขณะเดียวกันตนเองเตรียมให้ทนายยื่นฟ้องพรรคเพื่อไทย นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีโอกาสพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองเช่นกันว่าไม่เคยมีการทุจริต
นายโสภณ กล่าวว่า สำหรับเนื้อหาที่มีการพูดกันในสภาเมื่อวันที่ 24 พ.ย.มีแต่ความเท็จ คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นเจ้าพนักงานมีแต่การกล่าวหาเงินที่มีการปล้นไปนั้นเป็นการทุจริต แต่ปรากฏว่าไม่มีการร้องทุกข์กล่าวโทษหรือการกล่าวหาว่ามีการทุจริต ในการประมูลงานก็ไม่มีการร้องทุกข์กล่าวโทษเช่นกัน ตรงกันข้ามจะเป็น ร.ต.อ.เฉลิม เองที่จะโดนข้อหาละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ทั้งนี้ที่กล่าวหาว่าโครงการรถไฟฟ้าสีม่วง(บางใหญ่-บางซื่อ) และสีแดงมีการทุจริตก็ไม่เป็นความจริง
"โครงการสายสีม่วงได้เคยชี้แจงไปแล้วตั้งแต่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อรัฐบาลชุดที่ผ่านมาว่าการที่มีการยกเลิกสัญญาการวางรางที่ 5 เพราะผู้ได้สัญญาขาดคุณสมบัติและไจก้าก็ยกเลิกสัญญาเพราะเห็นว่าขาดคุณสมบัติ และยืนยันว่าไม่เคยมีการเอาเงินมาแบ่งกันตามที่กล่าวหา และขณะนี้อยู่ในการตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ซึ่งผมก็ถูกตรวจสอบโดย ป.ป.ช.และไม่รู้ว่า ป.ป.ช.ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว ส่วนโครงการสายสีแดงมีการลงนามทำสัญญาตั้งแต่รัฐบาลสมัยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) ต่อมาโครงการสายสีน้ำเงินยังไม่มีการลงนามในยุคผมเป็นรัฐมนตรี ดังนั้นการหยิบยกโครงการสายสีต่างๆ เป็นเพียงการมาสร้างตัวเลขให้มันสูงเพื่อสร้างละครเบี่ยงเบนกระแสและสร้างเรื่องเพิ่มเข้าไปในกระแสความสนใจของประชาชนเกี่ยวกับการปล้นบ้านปลัดคมนาคม" นายโสภณ กล่าว
นายโสภณ กล่าวว่า คดีปล้นบ้านปลัดคมนาคมยังไม่มีการสอบสวนคืบหน้าไปเท่าไหร แต่ว่ามีการเติมเรื่องและกล่าวหาไปหมดแล้ว ทำไมต้องร้อนรนออกมาจัดฉากกันขนาดนี้ ควรปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสอบสวน ในทางกลับกันมีการกล่าวหานายสุพจน์ร้ายแรงมากว่าเงินดังกล่าวมาจากการทุจริต ทั้งที่ ป.ป.ช.ยังไม่ได้ชี้มูลความผิด แต่รองนายกฯไปตัดสินแทนสังคมหมด ทั้งหมดทำไปเพื่อให้สังคมลืมเรื่องน้ำท่วม และ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ถึงเวลาที่ต้องพูดความจริงได้แล้วและการที่ตัวเองเงียบมาตลอดไม่ใช่เพราะกลัวแต่ไม่ต้องการให้สังคมสับสน
"ตลอดเวลาที่เป็นรัฐมนตรีคมนาคมเชื่อว่าคนที่พูดได้ดีที่สุดคือข้าราชการ และเมื่อรัฐบาลชุดนี้เข้ามาก็รู้ว่ามีการพยายามตรวจสอบโครงการถนนไร้ฝุ่น แต่การตรวจสอบไม่พบประเด็นการทุจริต และโครงการก็เป็นไปตามสเปคที่วางเอาไว้แต่ไม่มีใครออกมาพูด กลับกันมีการออกมาสร้างประเด็นให้คนอื่นๆ เสียหายโดยที่ไม่มีการร้องทุกข์กล่าวโทษ ผมเป็นรัฐมนตรีหนึ่งที่ไม่เคยเอาข้าราชการไปชี้แจงในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีและเป็นรัฐมนตรีที่ไม่มีแผล" นายโสภณ กล่าว