นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย และเลขานุการวิปรัฐบาล กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรมของฝ่ายค้านนั้น วิปรัฐบาลไม่ได้มีการตั้งองครักษ์อะไร แต่ในส่วนของวิปรัฐบาลก็ได้มีการเตรียพร้อมในการประชุมไว้แล้วคือ จะเอื้ออำนวยให้การประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยที่สุด หากมีกาอภิปรายไม่ถูกข้อบังคับการประชุมสภา ก็จะต้องมีการทักท้วง ซึ่งตรงนี้เรามีทีมของวิปฯคอยทำหน้าที่อยู่ ซึ่งจะเฝ้าติดตามการอภิปรายโดยตลอด
และได้ประสานให้ส.ส.ที่อยู่ในข่ายถูกพาดพิงให้อยู่ในห้องประชุมฟังการอภิปรายโดยตลอด เพื่อไม่ให้เสียสิทธิในการชี้แจงเมื่อถูกอภิปรายพาดพิง นอกจากนี้เรายังได้แนวทางแก่รัฐมนตรีในเรื่องการลุกขึ้นชี้แจง เช่น ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการอภิปรายชี้แจง
เมื่อถามว่าหลังการอภิปรายแล้วจะมีการประเมินเพื่อปรับครม.หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องส่วนตัวคิดว่าผู้บริหารหรือนายกรัฐมนตรี คงกำลังดูอยู่ ว่าหากจะมีการปรับจะเป็นเพราะอะไร เป็นความบกพร่องของบุคคล ของระบบ หรือนโยบาย เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นมาตรการหนักที่สุดในการตรวจสอบในสภา ซึ่งจะมีข้อมูลต่างๆออกมาจากฝ่ายค้าน ซึ่งจะนำไปสู่การปรับครม.หรือไม่ก็ต้องมาดูกันอีกครั้ง
"เรื่องการปรับครม.ผมคิดว่านายกฯและผู้บริหารคงได้คุยกันอยู่ เพราะการปรับก็เพื่อให้ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นสิ่งที่ทำกันเป็นปกติอยู่แล้ว แต่การเอาม้าออกกลางศึก ก็อาจจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี ดังนั้นก็คงต้องดูอีกสักระยะ ให้ผ่านช่วงวิกฤตไปหรือให้สถานการณ์คลี่คลายก่อน คงมีการปรับให้เหมาะสม"นพ.ชลน่าน กล่าว
ว่าที่ร.ต.พงศ์พันธุ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะที่เป็นประธานศปภ.นั้น แน่นอนว่าทางคณะรัฐมนตรีจะได้มีการเตรียมพร้อมในการับมือไว้แล้วในข้อมูลชี้แจงต่างๆของรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง แต่ในส่วนของพรรคเพื่อไทยเองก็ได้มีการเตรียมพร้อมเช่นกัน คือเราได้ให้ส.ส.ของพรรคเข้าประชุมโดยพร้อมเพรียง และให้เตรียมพร้อมในการอภิปรายสนับสนุนหากมีการพาดพิงเกิดขึ้น
นอกจากนี้ก็จะได้ทำหน้าที่ในการติดตามควบคุมการอภิปรายของฝ่ายค้านไม่ให้พาดพิงคนภายนอกหรือผู้ไม่เกี่ยวข้อง ดูให้อภิปรายอยู่ในกรอบไม่ให้ออกนอกประเด็น ซึ่งในภาพรวมเราไม่หนักใจ เพราะเป็นการอภิปรายรัฐมนตรีเพียงคนเดียว
เมื่อถามว่าหลังการอภิปรายจะต้องมีการประเมินการทำงานคณะรัฐมนตรีหรือไม่ ว่าที่ร.ต.พงศ์พันธุ์ กล่าวว่า แน่นอนว่าแม้จะเป็นการอภิปรายรัฐมนตรีเพียงคนเดียว แต่ก็เป็นการเชื่อมโยงครม.ทั้งคณะด้วย อย่างไรก็ดีตนคิดว่าตอนนี้ยังเร็วไปที่จะประเมินการทำงานของรัฐมนตรี เพราะที่ผ่านมารัฐมนตรีต่างก็พุ่งสมาธิไปที่การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ทำให้ทำงานในหน้าที่ของตนเองรับผิดชอบไม่เต็มที่ หลังจากน้ำลดแล้วก็ต้องเปิดโอกาสให้รัฐมนตรีได้ทำงานต่อไปก่อนอีกสักระยะ
"ผมคิดว่าในช่วงเดือนมีนาคมปีหน้า เป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่จะมีการประเมินการทำงานของรัฐมนตรีอย่างจริงจัง หากจะมีการปรับครม." ว่าที่ร.ต.พงศ์พันธุ์ กล่าว
นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) กล่าวว่า วิปรัฐบาลได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาหรืออาจจะเรียกวอร์รูมก็ได้ รวบรวมข้อมูลด้านต่างๆที่ฝ่ายค้านอภิปราย เพื่อเสริมข้อมูลให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องขึ้นชี้แจงเป็นระยะตามจังหวะเวลาที่เหมาะสม เป็นประเด็นที่เราวิตกที่รัฐมนตรีที่ไม่ถูกอภิปราย แต่รับผิดชอบใน ศปภ. ด้วย ต้องเป็นผู้อภิปรายเสริม พล.ต.อ.ประชา เช่น เรื่องถุงยังชีพ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยต้องชี้แจง ถุงบิ๊กแบ็กเป็นเรื่องของกระทรวงคมนาคม ทางรมว.คมนาคม ต้องเป็นผู้ชี้แจงหลัก และต้องขอให้ นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรฯ ที่มีส่วนรับผิดชอบในการจัดการน้ำต้องมีส่วนชี้แจงด้วย
นอกจากนี้ทางวิปรัฐบาลมอบหมายงานให้วิปแต่ละท่านทำหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งหน้าที่ให้อยู่ในห้องประชุม เพื่อเป็นกำลังใจใจรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายและติดตามการอภิปรายของฝ่ายค้านว่าผิดข้อบังคับหรือไม่ ที่สำคัญอยากให้รัฐมนตรีทั้งครม.อยู่ในห้องประชุมด้วย เพื่อให้กำลังใจแก่ พล.ต.อ ประชา และในฐานะที่ พล.ต.อ. ประชา เป็นแกนนำของภาคอีสาน ทาง ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ได้ตั้ง ส.ส. ไว้ 3 คน ประกอบด้วย นายขจิต ชัยนิคม นายวิเชียร ขาวขำ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายเกียรติอุดม เมนสวัสดิ์ เพื่อทำเกมในสภาช่วย พล.ต.อ.ประชา อีกแรง และยังมีส.ส.ภาคอีสานอีกหลายคนที่จะช่วยเข้ามาดูเกมในห้องประชุมในภาพรวมด้วย
นายไพจิต กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ฝ่านค้านจะอภิปายพาดพิงถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ขอบอกไปถึงฝ่ายค้านว่าทั้งสองคนนั้นพาดพิงไม่ได้เลย เพราะไม่ได้ถูกยื่นญัตติอภิปราย ถ้าหากพาดพิงเล็กๆน้อยก็พออนุโลม แต่โดยมารยาทแล้วไม่สมควรพาดพิง โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ทักษิณ พาดพิงไม่ได้ เนื่องจากเป็นบุคคลภายนอก
เมื่อถามว่ามีการซักซ้อมกับ พล.ต.อ. ประชา เตรียมรับมือฝ่ายค้านอย่างไร นายไพจิต กล่าวว่า ไม่ได้ซักซ้อมเพียงให้แนวทาง พล.ต.อ. ประชาไปแล้ว ส่วนรายละเอียดท่านก็ต้องเป็นคนชี้แจงเอง เมื่อถามว่าหลังอภิปรายทางพรรคจะถือปรับ ครม.อย่างไร นายไพจิต กล่าวว่า การอภิปรายไม่ได้เป็นเหตุที่นำไปสู่การปรับ ครม. ทั้งหมดขึ้นอยู่กับนายกฯ ที่จะดูการทำงานของรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงว่าทำให้ประชาชนได้มากน้อยแค่ไหน
นายไพจิต กล่าวว่า เชื่อว่าการอภิปรายครั้งนี้ฝ่ายค้านต้องคิดหนักหากทำแบบบู๊ล้างผลาญ ในช่วงที่ประชาชนประสบอุทกภัยอาจเสียแต้มทางการเมืองได้ แต่หากทำโดยต้องการตรวจสอบรัฐบาล เพื่อให้บริหารประเทศมีประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุดก็ถือเป็นเรื่องที่ดี และนายกฯได้ถือโอกาสนี้รับฟังข้อมูลการทำงานของรัฐบาลในภาพรวมด้วย ว่ารัฐมนตรีคนไหนทำงานเต็มไม้เต็มมือ ทำงานโปร่งใสอย่างไร จะได้ปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพต่อไป โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่ต้องช่วยกันผนึกกำลัง