คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ออกแถลงการณ์ประณามนักศึกษาชาวอิหร่านที่บุกทำลายสถานทูตอังกฤษในกรุงเตหะรานเมืองหลวงของประเทศ โดยนายโฮเซ โมเรส คาบราล เอกอัครราชทูตโปรตุเกสซึ่งเป็นประธาน UNSC เป็นผู้อ่านแถลงการณ์ดังกล่าว พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลอิหร่านคุ้มครองสถานทูต สถานกงสุล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
UNSC กล่าวย้ำในแถลงการณ์ว่า รัฐบาลเจ้าของประเทศมีพันธะผูกพันในการใช้ทุกมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสถานทูตและสถานกงสุลจากการบุกรุกหรือทำลาย ซึ่งเป็นบทบัญญัติภายใต้อนุสัญญาเวียนนาค.ศ.1961 ว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต และอนุสัญญาเวียนนาค.ศ.1963 ว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุล รวมถึงตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศอื่นๆอีกหลายฉบับ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นักศึกษาชาวอิหร่านหลายร้อยคนรวมตัวหน้าสถานทูตอังกฤษในกรุงเตหะรานเมื่อวานนี้ เพื่อประท้วงที่อังกฤษใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับอิหร่านเพราะอิหร่านดำเนินโครงการนิวเคลียร์ จากนั้นนักศึกษาบางส่วนได้บุกเข้าไปยังอาคารสถานทูต ขว้างปาก้อนหิน เผาธงชาติ และรื้อค้นเอกสารต่างๆกระจุยกระจาย
ข่าวการบุกโจมตีสถานทูตอังกฤษประจำกรุงเตหะรานเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX พุ่งขึ้น 1.58 ดอลลาร์ หรือ 1.61% ปิดที่ 99.79 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า สถานการณ์ตึงเครียดในอิหร่านอาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานพลังงาน และจะหนุนราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นด้วย