นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับครม.ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศเป็นกระทรวงหนึ่งที่อยู่ในข่ายว่า พร้อมรับหากจะถูกปรับออกจาก ครม.เพราะไม่เคยยึดติดตำแหน่ง และเปิดโอกาสให้บุคคลที่มีความสามารถได้เข้ามาทำหน้าที่แทน
ส่วนที่นายกรัฐมนตรีกำหนดให้รัฐมนตรีแต่ละคนส่งผลงานของตัวเอง เพื่อนำมาใช้ประกอบการพิจารณาในการปรับครม.นั้น นายสุรพงษ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกำหนดให้ส่งผลงานในวันศุกร์นี้ ซึ่งผลงานของตนที่เด่นๆ ที่ทำมาแล้ว เช่น เรื่องการไปเยือนพม่าและมีข้อตกลงในการก่อสร้างถนนจากด่านแม่น้ำเมยไปจนถึงกอกาเร็ก ซึ่งผ่านเทือกเขาตะนาวศรี และการซ่อมสะพานที่ข้ามระหว่างชายแดนแม่สอดกับพม่า ซึ่งเป็นไปได้ที่จะมีการเจรจาเพื่อขอเปิดด่านก่อนที่การซ่อมสะพานจะเสร็จ
ส่วนผลงานชิ้นต่อมาคือการเดินทางไปเยือนอาบูดาบี ของยูเออี ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างดีจาก ชีค อับดุลลา รมว.ต่างประเทศของยูเออี และได้รับปากจะมาเยือนประเทศไทยในไตรมาสแรกของปีหน้า และผลงานอีกอย่างหนึ่งคือความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชาและไทย ที่ดีกว่าในอดีตที่ผ่านมาเพราะไม่มีการสู้รบกันแล้ว และถือเป็นผลงานของรัฐบาล
รวมถึงผลงานชิ้นสำคัญ คือ ในระหว่างการประชุมอาเซียนได้ทำสเตทเม้นท์ของผู้นำประเทศให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับปัญหาอุทกภัย ซึ่งเป็นสเตทเม้นท์ที่ผู้นำประเทศในอาเซียนต่างให้การยอมรับ
"ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ที่ประเทศไทยจะใช้เวลาแค่ 7 วันในการนำเสนอแนวคิดอย่างนี้ และได้รับการตอบสนองจากผู้นำในอาเซียน ถือเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่มาก" นายสุรพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ ผลงานที่ได้ดำเนินการมาจะสามารถการันตีให้อยู่ในตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ ได้ต่อไปหรือไม่นั้น นายสุรพงษ์ กล่าวเพียงว่า จะพยายามทำให้ดีที่สุด
นายสุรพงษ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าอาการป่วยของนายวีระ สมความคิด ที่ยังถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำในประเทศกัมพูชาว่า ล่าสุดมารดาของนายวีระ ได้ส่งแพทย์จากโรงพยาบาลราชวิถีไปรักษาโรครูมาตอยด์ที่กัมพูชาแล้ว และกำลังรอรายงานจากสถานทูตไทยในกัมพูชาถึงอาการล่าสุด แต่เบื้องต้นที่ทราบจากมารดาของนายวีระ พบว่ามือบวมและมีอาการปวดเนื่องจากยาที่ได้รับจากกัมพูชาก่อนหน้านี้ไม่ตรงกับยาของไทย
ส่วนจะมีโอกาสนำตัวนายวีระ กลับมารักษาที่เมืองไทยหรือไม่นั้น ต้องขอหารือกับนายฮอนัมฮง รมว.ต่างประเทศ ของกัมพูชาก่อน ซึ่งจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าไปหารือด้วย
ด้านายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ไม่ทราบและไม่ขอให้ความเห็นถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในการปรับคณะรัฐมนตรี เพราะขณะนี้ได้เร่งทำงานในสิ่งที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายอยู่
"งานในส่วนของน้ำท่วมก็ทำอยู่ แต่ไม่ขอประเมินตนเอง เพราะเรื่องแบบนี้ต้องไปถามคนอื่นมากกว่า จะมาพูดโอ้อวดตนเองคงไม่ได้" นายยงยุทธ กล่าว
พร้อมระบุว่า ไม่รู้สึกท้อที่มีการวิจารณ์ว่าเป็นเป้าในการปรับครม. เพียงได้มีโอกาสทำงานให้ประเทศชาติ ให้ประชาชนก็มีความสุขแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายยงยุทธปฏิเสธที่จะตอบคำถามกรณีว่ามีการส่งสัญญาณมาจากต่างประเทศว่าการแก้ปัญหาน้ำท่วมทำได้ไม่เข้าตา โดยนายยงยุทธ เลี่ยงจะตอบคำถามและเดินขึ้นรถยนต์ออกไปทันที