"โอบามา"ขานรับอินโดนีเซียลงสัตยาบันในสนธิสัญญาห้ามทดลองนิวเคลียร์

ข่าวต่างประเทศ Wednesday December 7, 2011 13:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ แสดงความยินดีที่รัฐบาลอินโดนีเซียได้ลงสัตยาบันในสนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลองอาวุธนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ (CTBT) พร้อมเรียกร้องให้ทุกประเทศลงนามและลงสัตยาบันในสนธิสัญญาดังกล่าวเพื่อให้มีผลบังคับใช้อย่างเร็วที่สุด

ประธานาธิบดีโอบามากล่าวยกย่องอินโดนีเซียว่า “เป็นตัวอย่างที่ดีของผู้นำที่มีบทบาทในเชิงบวก" เพื่อส่งเสริมการป้องกันการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ โดยเขาระบุว่า สนธิสัญญาฉบับดังกล่าวเป็น “องค์ประกอบสำคัญ" ในความพยายามระหว่างประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์

“ผมขอเรียกร้องให้ทุกชาติลงนามและลงสัตยาบันในข้อตกลงดังกล่าวเพื่อที่ว่าจะสามารถประกาศใช้อย่างเร็วที่สุด" เขากล่าวในแถลงการณ์ และระบุว่า สหรัฐยังคง “มุ่งมั่นอย่างเต็มที่" เพี่อดำเนินการลงสัตยาบันในสนธิสัญญาฉบับดังกล่าวและเดินหน้าให้สมาชิกสภาคองเกรสมีส่วนร่วม เนื่องจากสนธิสัญญานี้มีความสำคัญต่อความมั่นคงของสหรัฐ

“สหรัฐต้องเป็นผู้นำประชาคมโลกในการป้องกันการแพร่ขยาย และการลงมติและการประกาศใช้สนธิสัญญาถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามดังกล่าว" เขากล่าวเสริม

สนธิสัญญา CTBT ซึ่งลงมติโดยสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2539 ระบุถึงการห้ามใช้อาวุธนิวเคลียร์ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ทางพลเรือนหรือทางทหาร โดยอินโดนีเซียเป็นประเทศลำดับที่ 156 ที่ลงสัตยาบัน

โดยสนธิสัญญาจะมีผลบังคับใช้ 180 วันหลังจากได้รับการลงสัตยาบันจากจีน เกาหลีเหนือ อียิปต์ อินเดีย อิหร่าน อิสราเอล และสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศที่เข้าร่วมการเจรจาสนธิสัญญาดังกล่าวระหว่างปี 2537 — 2539 และมีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์หรือเครื่องปฏิกรณ์เพื่อการวิจัยอยู่ในครอบครอง ณ เวลานั้น

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโอบามาได้เรียกร้องให้โลกปราศจากนิวเคลียร์ในปี 2552 และเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดความมั่นคงด้านนิวเคลียร์ในปีถัดมาที่กรุงวอชิงตัน โดยมีวัตถุประสงค์ลดภัยคุกคามจากนิวเคลียร์ทั่วโลก สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ