น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการเดินทางตรวจเยี่ยมกองทัพเรือ โดยมีพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม และ พล.ร.อ. สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือต้อนรับ โดยมีการตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ และเข้าสักการะพระบรมราชานุเสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสิน และพระรูปปั้นพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ด้วย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า พร้อมให้การสนับสนุนการจัดซื้อจัดจ้างเรือดำน้ำของกองทัพเรือ แต่ต้องพิจารณาโดยผ่านกระบวนการของทางกระทรวงกลาโหม และพิจารณาตามความจำเป็น ซึ่งตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งทางกองทัพเรือยังไม่เสนอเรื่องนี้มา แต่หากมีความจำเป็นก็พร้อมจะพิจารณาให้
"อะไรที่ส่งมาจากองทัพมีเหตุผลจำเป็น ดิฉันก็ให้" นายกฯ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ระบุว่าจะสามารถจัดซื้อจัดจ้างได้ภายใน 4 ปีนี้หรือไม่ เพียงแต่การจัดซื้อต้องดูคุณสมบัติและสภาวะแวดล้อมในช่วงนั้นว่ามีความจำเป็นเพียงใด
ส่วนการพิจารณาเรื่องกฎหมายปรองดองจะต้องเป็นหน้าที่ของรัฐสภาเป็นผุ้พิจารณา โดยจุดยืนต้องการให้ประเทศชาติเกิดความปรองดองและเกิดความสงบสุขในประเทศ ส่วนการที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พ.ร.บ.ปรองดองฯ เปลี่ยนชื่อมาจากพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ นั้นก็เป็นเพียงความคิดเห็นของร.ต.อ.เฉลิมเท่านั้น
"จริงๆ งานทุกอย่างไม่สามารถบอกว่าใครชี้นำได้ อาจเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็น กระบวนการทั้งหมดต้องผ่านสภาฯ ไม่ว่าจะชื่ออะไร ส่วนหลักสำคัญเพื่อให้ประเทศชาติเกิดความปรองดอง เกิดความสงบสุขในประเทศ นี่คือจุดหลักมากกว่า" นายกรัฐมนตรี ระบุ