ศาลปกครองกลาง นัดอ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุดในคดีที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ยื่นฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร เวลา 10.00 น.วันพรุ่งนี้(20 ธ.ค.54)
คดีนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท(ผู้ฟ้อง) ฟ้องว่า นายกรัฐมนตรี(ผู้ถูกฟ้อง)ละเลยต่อหน้าที่ไม่ดำเนินการเพิกถอนคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 228/2552 ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2552 ซึ่งลงโทษปลดผู้ฟ้องคดีออกจากราชการ ทั้งที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 17/2552 เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2552 ว่าผู้ฟ้องคดีไม่ได้กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ให้สั่งยกโทษ กรณีผู้ฟ้องคดีเมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธปราบปรามประชาชนที่กำลังชุมนุมในพื้นที่บริเวณหน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ซึ่งผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือหลายฉบับให้ผู้ถูกฟ้องคดีปฏิบัติตามมติ ก.ตร. ดังกล่าวแล้ว แต่ผู้ถูกฟ้องคดีมิได้ดำเนินการแต่อย่างใด ทำให้ผู้ฟ้องคดีเดือดร้อนเสียหาย โดยขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีดำเนินการเพิกถอนคำสั่งตามมติ ก.ตร. ดังกล่าว และคืนสิทธิประโยชน์แก่ผู้ฟ้องคดี
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2554 ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องนี้ไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า สำนักงาน ก.ตร.ได้มีหนังสือแจ้งมติ ก.ตร.ให้ผู้ถูกฟ้องคดีเพื่อดำเนินการ แต่ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ถูกฟ้องคดีรับทราบมติ ก.ตร.ตั้งแต่เมื่อใด แต่อย่างช้าที่สุดก็คือวันที่ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือฉบับลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2553 ถึงผู้ถูกฟ้องคดีขอให้ยกเลิกคำสั่งลงโทษปลดผู้ฟ้องคดีออกจากราชการตามมติของ ก.ตร. ซึ่งผู้ฟ้องคดีจะต้องนำคดีมาฟ้องต่อศาลภายใน 90 วันนับแต่วันที่ครบกำหนด 90 วันนับแต่วันที่ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือร้องขอต่อผู้ถูกฟ้องคดีกล่าวคือ ภายในวันที่ 22 สิงหาคม 2553 การที่ผู้ฟ้องคดียื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2553 จึงเป็นการยื่นคำฟ้องเมื่อพ้นระยะเวลาการฟ้องคดีตามมาตรา 49 แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 ศาลจึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องนี้ไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ