สหรัฐเรียกร้องประเทศพันธมิตรลดการพึ่งพาน้ำมันจากอิหร่าน

กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐระบุว่า สหรัฐกำลังเรียกร้องให้ประเทศพันธมิตรลดการพึ่งพาน้ำมันจากอิหร่าน แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจใช้กฏหมายฉบับใหม่ที่พุ่งเป้าคว่ำบาตรธนาคารกลางอิหร่าน เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดกับหุ้นส่วนธุรกิจและมิตรประเทศ

นางวิคตอเรีย นูแลนด์ โฆษกประจำกระทรวงต่างประเทศเปิดเผยว่า ในระหว่างที่นางฮิลลารี คลินตัน หารือกับนายโคอิชิโร เกมบะ รัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่นนั้น นางฮิลลารีได้แสดงความวิตกกังลของสหรัฐในเรื่องการพึ่งพาน้ำมันจากอิหร่านของหลายประเทศ

"อย่างที่ท่านทราบกัน พวกเรากำลังวอนขอให้ประเทศพันธมิตรของเราพยายามลดการพึ่งพาน้ำมันจากอิหร่าน" นางนูแลนด์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่งานแถลงข่าวประจำวัน

ขณะที่ นายเกมบะแสดงความคิดเห็นว่า “เศรษฐกิจทั่วโลกมีความเสี่ยงที่จะได้รับความเสียหาย หากมีการยุติการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่าน"

ทั้งนี้ สภาคองเกรสได้ผ่านร่างกฎหมายด้านกลาโหมเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยมีบทบัญญัติเรียกร้องให้มีการคว่ำบาตรอิหร่านซึ่งพุ่งเป้าไปที่สถาบันการเงินต่างชาติที่ทำธุรกิจกับธนาคารกลางของอิหร่าน

เจ้าหน้าที่รัฐบาลเผยว่า มาตราการคว่ำบาตรธนาคารกลางอิหร่านซึ่งเป็นท่อส่งเงินรายได้จากน้ำมันที่สำคัญของอิหร่าน จะส่งผลกระทบต่อตลาดและผลประโยชน์ของสหรัฐ พันตมิตร และหุ้นส่วนธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม การแก้ไขร่างกฎหมายฉบับแรก จะทำให้ประธานาธิบดีมีสิทธิ์ระงับบทลงโทษโดยแจ้งกับสภาคองเกรสว่า การกระทำดังกล่าวเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของความมั่นคงประเทศ

“อย่างที่เราเคยปฏิบัติมา รมว.ต่างประเทศต้องการให้มั่นใจว่า เมื่อใช้กฏหมายฉบับนี้ อิหร่านจะรับรู้ถึงแรงกดดัน และเราจะหารืออย่างใกล้ชิดกับพันตมิตรและหุ้นส่วนธุรกิจเกี่ยวกับการปกป้องผลประโยชน์อันชอบธรรม ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและอื่นๆ" นางนูแลนด์กล่าว

“เรามีเป้าหมายร่วมกันเพื่อสร้างแรงกดดันทางเศรษฐกิจกับรัฐบาลอิหร่านเพื่อที่ให้อิหร่านเปลี่ยนแปลงการปฏิบัติ เราจำเป็นต้องใช้กฏหมายฉบับนี้อย่างเป็นขั้นเป็นตอนและสอดคล้อง เพื่อให้มั่นใจว่า อิหร่านได้รับรู้ถึงแรงกดดัน และเราไม่ต้องการสร้างความเสียหายให้กับประเทศพันธมิตรและประเทศคู่ค้าของเรา" เธอกล่าว

นางนูแลนด์ยังระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญสหรัฐได้ติดต่อกับประเทศพันธมิตรเกี่ยวกับให้ช่วยเหลือในการหันมาพึ่งพา “อุปทานที่มีความมั่นคงมากกว่านี้"

สหรัฐและมิตรประเทศกำลังศึกษาลู่ทางออกมาตราการคว่ำบาตรเพิ่มที่เข้มงวดมากกว่าเดิมกับอิหร่านโดยมีเป้าหมายเพื่อกดดันอิหร่านให้ยกเลิกโครงการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน