น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การเดินทางไปเจรจาเรื่องแหล่งพลังงานกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า ไม่ได้เป็นผลจากการปูทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตามที่พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์ไว้ แต่เป็นการดำเนินงานภายใต้กระบวนการของรัฐบาล และกระทรวงการต่างประเทศ โดยยืนยันว่าไม่มีผลประโยชน์ที่เอื้อให้พวกพ้องตนเอง
"ท่าน(ทักษิณ)ก็เดินทางของท่าน สิ่งที่ดิฉันดำเนินการเป็นการดำเนินการผ่านรัฐบาลและติดต่อจากกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่าไปในนามรัฐบาล ไม่มีการเจรจาเรื่องส่วนตัว"นายกรัฐมนตรี กล่าว
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการให้สัมภาษณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณจะไม่ส่งผลกระทบต่อรัฐบาล ถ้าอะไรเป็นสิ่งที่ดีก็ไม่ควรไปปิดกั้น แต่การดำเนินงานทุกอย่างเป็นการดำเนินการของรัฐบาลเอง และยืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เข้ามามีบทบาทในรัฐบาลแต่อย่างใด
ส่วนการที่ได้มีโอกาสเข้าพบกับนางอองซาน ซู จี เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งเห็นไปในทิศทางเดียวกันที่จะทำประโยชน์ให้ประชาชนเป็นที่ตั้ง ซึ่งนางอองซาน ซู จี ถือเป็นคนที่มีจุดยืนและมุ่งมั่นในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และต้องการให้เกิดความปรองดอง ซึ่งการที่รัฐบาลพม่าเปิดโอกาสให้เข้าพบนางอองซาน ซู จี ถือว่าเป็นการพัฒนาสู่ประชาธิปไตย ซึ่งพม่าเองก็จะมีการเปิดการเลือกตั้งในอนาคตข้างหน้า ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดีในประเทศอาเซียนด้วยกัน และไทยพร้อมสนับสนุนให้เกิดความปรองดองในประเทศพม่า
ส่วนกรณีที่ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยยังมีความเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายกฯ กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องมีการพูดคุยในรายละเอียด และทุกอย่างต้องรับฟังเสียงส่วนใหญ่