นายกฯ ย้ำแก้ รธน.เป็นไปตามกระบวนการรัฐสภา,"อภิสิทธิ์"ขอให้รัฐบาลชัดเจน

ข่าวการเมือง Saturday December 24, 2011 13:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ย้ำอยากให้การพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปตามกระบวนการของรัฐสภา ส่วนจะแก้มีการแกไขในมาตราใดนั้นต้องดูไปตามโจทย์และเจตนาก่อนว่าจะแก้เรื่องใด แต่ต้องคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ

ส่วนกรณีที่มีผู้เสนอให้ทำประชามติในเรื่องดังกล่าวนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โดยภาพรวมแล้วเห็นด้วย แต่ต้องพิจารณาว่าจะทำเรื่องใดเช่นกัน เพราะหากไม่มีโจทย์ในการแก้รัฐธรรมนูญจะทำให้ผลการทำประชามติไม่ได้ผลเท่าที่ควร

นายกรัฐมนตรี ยังเห็นด้วยกับข้อเสนอของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) จากประชาชนทั้ง 77 จังหวัด รวมทั้งมีนักวิชาการและนักปราชญ์เป็น 99 คน เป็นผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญ ก็เป็นข้อเสนอที่ดี แต่ขอให้เป็นกระบวนการของรัฐสภา และอยากให้มั่นใจว่า การสรรหาตัวแทนประชาชนมาจากทุกภาคส่วนจริงๆ

สำหรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายว่าการแก้รัฐธรรมนูญจะนำไปสู่ความแตกแยกนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ยังเป็นความคิดของแต่ละฝ่าย ซึ่งต้องมีการการรือในวงกว้าง สำหรับภารกิจเร่งด่วนของรัฐบาลขณะนี้ คือ การแก้ปัญหาและฟื้นฟูวิกฤตน้ำท่วม

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) ต้องดูที่มาที่ไปของคนที่จะมาเป็น ส.ส.ร.ว่า มีความเหมาะสมมากน้อยแค่ไหน และต้องดูแนวคิดว่าจะดำเนินการแก้ไขอย่างไร แต่ขณะนี้เห็นข่าวว่าบางคนไม่อยากให้มี ส.ส.ร.แล้ว ซึ่งรัฐบาลต้องมีความชัดเจนว่าจะแก้ประเด็นใดบ้าง ถ้าหากแก้แล้วเอื้อต่อพวกพ้องของตนเองแล้วจะทำให้เกิดความขัดแย้งก็ไม่เป็นผลประโยชน์ของประเทศ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อะไรมีแนวโน้มนำไปสู่ความขัดแย้งอยากให้รัฐบาลส่งสัญญาณให้ชัด อย่างการแก้มาตรา 112 แม้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี จะยืนยันแนวทางชัดเจน แต่หัวหน้ารัฐบาลต้องพูดย้ำ เพื่อให้ผู้สนับสนุนเข้าใจ และจะลดความขัดแย้งลงได้

ส่วนกรณีพบวัตถุต้องสงสัยบริเวณใกล้กับธนาคารกสิกรไทย สาขาสีลม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากให้ผู้รับผิดชอบแสดงความชัดเจนเรื่องนี้ ซึ่งการประชุมกับภาคธุรกิจวานนี้ได้รับเสียงสะท้อนว่ารัฐบาลยังไม่มีแผนสร้างความมั่นใจ ซึ่งส่งผลต่อการประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ซึ่งรัฐบาลควรเร่งสร้างความมั่นใจ ไม่ใช่ออกมาปล่อยข่าวเอง คนที่รับผิดชอบเรื่องดังกล่าวจริงๆ ถ้าพูดให้น้อยทำให้มากจะดีกว่านี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ