เอแบคโพลล์ชี้ค่าความสุขของ ปชช.ด้านความจงรักภักดีต่อกษัตริย์เพิ่มขึ้น

ข่าวการเมือง Sunday December 25, 2011 10:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง รายงานดัชนีความสุขมวลรวมหรือ Gross Domestic Happiness (GDH) ด้านเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง เปรียบเทียบระหว่างเดือนกันยายน กับเดือนธันวาคม เมื่อค่าอ้างอิงความสุขมวลรวมอยู่ที่ระดับ 100 จุด พบว่า ค่าความสุขมวลรวมของประชาชนในทุกด้านเริ่มดีขึ้นเกือบทุกตัวชี้วัด แต่ยังไม่ผ่านเกณฑ์ค่าอ้างอิงซึ่งถือว่ายังไม่มีความสุขในด้านเศรษฐกิจ กับด้านการเมือง ส่วนด้านสังคมนั้นผลสำรวจพบว่าประชาชนมีความสุขโดยเฉพา เรื่องการแสดงออกของประชาชนในความจงรักภักดีและบรรยากาศความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว

ความสุขมวลรวมของประชาชนในด้านเศรษฐกิจนั้น แม้มีสัญญาณของผลสำรวจเริ่มดีขึ้นทุกตัวชี้วัดแต่ยังไม่ผ่านเกณฑ์ค่าอ้างอิงที่ระดับ 100 จุด ทุกตัวชี้วัด หมายความว่า ประชาชนยังไม่มีความสุขด้านเศรษฐกิจ โดยพบว่า ค่าความสุขต่อรายได้ส่วนตัวสูงขึ้นเพียงเล็กน้อยจาก 93.1 จุดในเดือนกันยายน มาอยู่ที่ 93.4 จุดในเดือนธันวาคม และรายได้ครัวเรือนสูงขึ้นจาก 83.2 จุดมาอยู่ที่ 91.8 จุด การใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมีค่าความสุขสูงขึ้นจาก 75.6 จุดมาอยู่ที่ 83.9 จุด การเรียกร้องสิทธิของผู้บริโภคจากกลุ่มนายทุนผู้ประกอบการธุรกิจสูงขึ้นจาก 74.7 จุดมาอยู่ที่ 77.8 จุด และสภาวะเศรษฐกิจของประเทศสูงขึ้นจาก 61.3 จุดมาอยู่ที่ 66.1 จุด ตามลำดับ จะเห็นได้ว่ายังไม่มีตัวชี้วัดใดเลยที่ผ่านเกณฑ์ค่าอ้างอิงคือ 100 จุด หมายความว่าประชาชนยังไม่มีความสุขมวลรวมด้านเศรษฐกิจ

แต่ประชาชนมีความสุขมวลรวมด้านสังคมที่คนไทยทุกคนในชาติจำเป็นต้องช่วยกันรักษาไว้ เพราะเป็นความสุขที่เวลานี้เหลือเพียงด้านสังคมเท่านั้นที่ประชาชนมีความสุข โดยพบว่า ค่าความสุขของประชาชนที่เห็นการแสดงความจงรักภักดีของคนในชาติต่อสถาบันพระมหากษัตริย์สูงขึ้นจาก 162.7 จุดในเดือนกันยายน มาอยู่ที่ 175.4 จุดในเดือนธันวาคม และบรรยากาศความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวสูงขึ้นจาก 135.0 จุดมาอยู่ที่ 146.4 จุด สุขภาพใจในช่วง 30 วันที่ผ่านมาสูงขึ้นจาก 117.6 มาอยู่ที่ 134.0 จุด หน้าที่การงาน อาชีพที่ทำอยู่สูงขึ้นจาก 111.4 มาอยู่ที่ 121.5 จุด การให้บริการด้านการรักษาพยาบาลในชุมชนสูงขึ้นจาก 110.7 มาอยู่ที่ 115.5 จุด ด้านคุณภาพการศึกษาของบุตรหลานสูงขึ้นจาก 110.5 มาอยู่ที่ 124.3 จุด ด้านสุขภาพกายในช่วง 30 วันที่ผ่านมาสูงขึ้นจาก 108.8 มาอยู่ที่ 120.3 จุด ด้านบรรยากาศความสัมพันธ์ของคนในชุมชนในช่วง 30 วันที่ผ่านมาสูงขึ้นจาก 107.7 มาอยู่ที่ 121.9 จุด ด้านสภาพถนนหนทาง ไฟฟ้า น้ำดื่มน้ำใช้ในชุมชนช่วง 30 วันที่ผ่านมาสูงขึ้นจาก 94.9 จุดมาอยู่ที่ 107.2 จุด

อย่างไรก็ตาม ที่น่าเป็นห่วงคือ ค่าความสุขต่อวัฒนธรรมประเพณีไทยในปัจจุบันลดลงจาก 86.8 จุดมาอยู่ที่ 84.8 จุด หมายความว่าประชาชนไม่มีความสุข และด้านความเป็นธรรมในสังคม ความไม่เป็นธรรมทางสังคมที่ได้รับที่ประชาชนยังไม่มีความสุขเพราะสำรวจพบอยู่ที่ 86.7 จุดในเดือนกันยายน และ 88.6 จุดในเดือนธันวาคม รวมถึงภาพลักษณ์ของประเทศไทย คนไทย และเด็กไทยที่ประชาชนยังไม่มีความสุขเพราะสำรวจพบในเดือนกันยายนอยู่ที่ 78.8 จุด และ 83.2 จุดในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นค่าที่ต่ำกว่าเกณฑ์อ้างอิงที่ 100 จุด ตามลำดับ

นอกจากนี้ ประชาชนยังไม่มีความสุขด้านการเมืองในทุกตัวชี้วัด เมื่อค่าอ้างอิงอยู่ที่ระดับ 100 จุด แต่หลายตัวมีทิศทางที่ดีขึ้นได้แก่ นโยบายของรัฐบาลค้นพบในเดือนกันยายนอยู่ที่ 92.5 จุด และ 96.6 จุดในเดือนธันวาคม ด้านการทำงานของรัฐบาลในการป้องกันแก้ไขปัญหาภัยพิบัติต่างๆ ค้นพบในเดือนกันยายนอยู่ที่ 91.2 จุดและ 99.3 จุดในเดือนธันวาคม ด้านการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินในช่วง 30 วันที่ผ่านมาสูงขึ้นแต่ประชาชนยังไม่มีความสุขเช่นกัน เพราะค้นพบในเดือนกันยายนอยู่ที่ 90.8 จุด และ 98.9 จุดในเดือนธันวาคม รวมถึงการทำงานของรัฐบาลโดยภาพรวมในช่วงนี้ประชาชนยังไม่มีความสุขเช่นกันเพราะค้นพบในเดือนกันยายนอยู่ที่ 90.0 จุด และ 98.4 จุดในเดือนนี้

สำหรับการพบเห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐในช่วง 30 วันที่ผ่านมา พบว่า ประชาชนยังไม่มีความสุขเช่นกันโดยค้นพบค่าความสุขต่ำกว่าเกณฑ์อ้างอิงที่ 89.6 จุดในเดือนกันยายนและ 96.9 จุดในการสำรวจล่าสุดนี้ นอกจากนี้ประชาชนยังไม่พอใจการทำงานของนักการเมืองฝ่ายค้าน ไม่มีความสุขต่อนักการเมืองระดับท้องถิ่นในชุมชน ไม่มีความสุขต่อคุณภาพของนักการเมืองระดับชาติ และยังไม่มีความสุขต่อสถานการณ์การเมืองโดยภาพรวมเช่นกัน

นายนพดล กรรณิกา ผอ.ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน กล่าวว่า โดยสรุป แม้ค่าความสุขมวลรวมเพิ่มสูงขึ้นในช่วงปลายปีนี้หลายตัวชี้วัดโดยเฉพาะด้านสังคมที่คนไทยเห็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีของคนในชาติ บรรยากาศความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว แต่คนไทยยังไม่มีความสุขด้านปากท้อง สภาวะเศรษฐกิจ และสถานการณ์ทางการเมือง และหากวิเคราะห์ค่าความสุขมวลรวมของคนไทยภายในประเทศระหว่างเดือนกันยายนกับเดือนธันวาคมพบว่าโดยภาพรวมคนไทย “เกือบ" จะมีความสุขเพราะค่าที่ค้นพบสูงขึ้นจาก 90.5 จุดมาอยู่ที่ 98.3 จุดแต่ยังต่ำกว่าค่าอ้างอิงที่ระดับ 100 จุด

ดังนั้น จะเห็นได้ว่า สิ่งที่ประชาชนทุกคนในชาติต้องช่วยกันคือ ประคับประคองสถานการณ์ทางการเมืองไม่ให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงบานปลายไปกว่านี้อันจะเป็นตัวบั่นทอนความสุขของคนไทย และรัฐบาลจำเป็นต้องเร่งฟื้นฟูสภาวะเศรษฐกิจด้วยการ “ทำตามสัญญาประชาคม" ต่อสาธารณชนที่เคยให้ไว้เพื่อหนุนเสริมความสุขของประชาชนให้เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกภาคส่วนต้องทำงานหนัก “อย่างจริงจังและต่อเนื่อง" เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทำให้ “ความสุขสุดท้ายที่เหลืออยู่ด้านสังคม" ของประชาชนกลายเป็นปัจจัยชี้นำให้ความสุขมวลรวมของประชาชนภายในประเทศคงอยู่ตลอดไป

การสำรวจดังกล่าวดำเนินการกับกรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 18 จังหวัดของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ลพบุรี ชัยนาท สระแก้ว ราชบุรี ชลบุรี เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ บุรีรัมย์ ชัยภูมิ ขอนแก่น นครพนม นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และชุมพร จำนวนทั้งสิ้น 2,520 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 10 — 24 ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา โดยใช้การเลือกตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่มเชิงชั้นภูมิหลายชั้น ที่สุ่มเลือกจังหวัด อำเภอ ตำบล ชุมชน ครัวเรือน และประชาชนตัวอย่างระดับครัวเรือน ช่วงความคลาดเคลื่อนบวกลบร้อยละ 7


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ