ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปี 2554 ตามธรรมเนียมปฏิบัติสืบเนื่องกันมาเพื่อสะท้อนเห็นต่อการทำงานของรัฐบาล ซึ่งในสมัยนี้มีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ดังนี้
-ฉายารัฐบาล : ทักษิณส่วนหน้า
การบริหารงานของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่สามารถสลัดภาพพี่ชายอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้ จนรัฐบาลชุดนี้เปรียบเหมือนศูนย์บัญชาการส่วนหน้าของตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายประชานิยมที่ชูสโลแกน“ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ"หรือในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีที่รัฐมนตรีในโผต้องเดินทางไปดูไบเพื่อแสดงวิสัยทัศน์ ล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณยังกรุยทางให้กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ก่อนการเดินทางไปเยือนประเทศต่างๆ นอกเหนือไปจากการการันตีว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์คือโคลนนิ่ง
-น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี : นายกฯนกแก้ว
น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นผู้หญิงที่มีความสวย บุคลิกดี มีความความโดดเด่น คล้ายกับนกแก้วที่มีสีสันสวยงาม แต่ต้องติดอยู่ในกรงทอง ไม่สามารถบินไปไหนมาไหนได้ด้วยตัวเอง ต้องมีพี่เลี้ยงคอยประกบดูแลอย่างใกล้ชิด บทบาทที่แสดงต่อสาธารณชนจึงเป็นการพูดตามบท และการตอบคำถามมักพูดซ้ำไปซ้ำมา หรือวกวน หลายครั้งก็พูดผิดกระทั่งตกเป็นเป้าของการวิพากษ์วิจารณ์
-นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย : ทักษิโด้โชว์ห่วย
เคยเป็นถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากประวัติการทำงานที่เป็นถึงอดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งได้จัดตั้งรัฐบาล นายยงยุทธจึงถูกวางตัวให้รับตำแหน่งสำคัญในฐานะรมว.มหาดไทยเพื่อตอบแทนความภักดีที่คอยดูแลพรรคในช่วงเวลาที่ตกต่ำสุดขีด นายยงยุทธเป็นผู้ที่แต่งกายและมีบุคลิกดีคล้ายผู้ชายใส่“ทักซิโด"เมื่อถึงเวลาแสดงผลงานกลับสอบตก“โชว์ห่วย" จนมีเสียงเรียกร้องภายในพรรคให้ปรับออกจากตำแหน่ง และคำว่า“ทักษิโด้" ในที่นี้ยังเป็นการล้อจากชื่อของ พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้อยู่เบื้องหลังด้วย
-ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี : กุมารทองคะนองศึก
ลักษณะทั่วไปของกุมารทอง คือ จะทำงานตามคำสั่งและทำเพื่อประโยชน์ของผู้เลี้ยงเท่านั้น เช่นเดียวกับร.ต.อ.เฉลิมที่จะทำงานตามคำสั่งของพ.ต.ท.ทักษิณ และมักจะเป็นพรายกระซิบคอยบอกบทของเพื่อนรัฐมนตรีระหว่างการชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร อีกทั้ง ร.ต.อ.เฉลิมยังมีความซุกซน ชอบเข้าไปเกี่ยวข้องกับหลายเรื่องที่ไม่ใช่งานในความรับผิดชอบหวังเพียงสร้างประเด็นข่าว และยังมีความคึกคะนองพร้อมที่จะประกาศศึกกับใครก็ได้จนบางครั้งกลายเป็นการชักศึกเข้าบ้าน
-พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม : อินทรีหลงป่า
มีดีกรีเป็นถึงอดีตอธิบดีกรมตำรวจ พื้นเพเป็นคนอีสาน และได้แสดงผลงานการปราบปรามสมัยสวมเครื่องแบบสีกากีอย่างโดดเด่น จนถูกขนานนามว่าเป็น“อินทรีอีสาน"แต่เมื่อเข้ามาเป็นรัฐมนตรีกลับได้รับงานที่ผิดฝาผิดตัว คืองานแก้ปัญหาน้ำท่วม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.)ซึ่งไม่ใช่งานที่ถนัด อีกทั้งการแก้ปัญหาดังกล่าวก็ไม่ได้ดีเท่าที่ควร หลงทิศหลงทาง ส่งผลให้ปัญหาน้ำท่วมลุกลาม กระทั่งเจ้าตัวยังถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจและถูกฝ่ายค้านยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่ง
-นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ : “ปึ้ง"เป้าเป๊ะ
“ปึ้ง"เป็นชื่อเล่นของนายสุรพงษ์ ผู้ที่ถูกสังคมตั้งคำถามถึงความเหมาะสมตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งรมว.ต่างประเทศ ผลงานตลอด 4 เดือนที่ผ่านมาสะท้อนผลงานเข้าเป้าทุกประการเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นการขอวีซ่าเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นและอาศัยจังหวะชุลมุนช่วงน้ำท่วมออกหนังสือเดินทางให้กับอดีตนายกฯ
-พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี : ประแจปากตาย
อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)เป็นคนพูดน้อย ท่าทีแข็งทื่อ คล้ายครั้งทำเหมือนพูดไม่รู้เรื่อง ทำให้ไม่มีบทบาทตามหน้าสื่อหรือภายในพรรคเพื่อไทย แต่ความจริงกลับเป็นตัวเดินเกมและคอยแก้ไขปัญหาให้กับรัฐบาลรวมถึงพรรคเพื่อไทยในหลายๆเรื่อง ที่โดดเด่นคือการกล่อมพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ย้ายจากตำแหน่งผบ.ตร.มาเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อเปิดทางให้กับพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ พี่ภรรยาของพ.ต.ท.ทักษิณ ได้เป็นผบ.ตร.สมใจ
-นายกิตติรักษ์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ : ปุเลง..นอง
ล้อมาจากคำว่า“บุเรงนอง"ที่เป็นแม่ทัพใหญ่ในนิยาย“ผู้ชนะสิบทิศ"โดยนายกิตติรัตน์ที่เป็นขุนพลด้านเศรษฐกิจผู้ประกาศตัวว่าจะเข้ามากู้วิกฤตให้กับประเทศ แต่การทำงานกลับเป็นไปอย่างติดๆขัดๆ ไม่ราบรื่นเหมือนกับปุเลงไปเรื่อยๆ และยังมีปัญหากับนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลังหลายครั้งหลายหน กระทั่งเกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ทะลักเข้านิคมอุตสาหกรรมสำคัญหลายแห่งสร้างความเสียหายมหาศาล จนกระทั่งนายกิตติรัตน์ต้องน้ำตานองหน้าต่อคนทั้งประเทศ
-นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน : ไอเดียกระฉอก
เป็นเจ้าโปรเจ็คส์ สารพัดคิด หลายเรื่องยังไม่ได้ข้อสรุปในที่ประชุมก็เป็นเจ้าตัวที่ทำให้กระฉอกออกมา อย่างโครงการนิวไทยแลนด์ที่เจ้าตัวออกมาเปิดเผยว่ารัฐบาลเตรียมกู้เงิน 9 แสนล้านบาทเพื่อมาฟื้นฟูประเทศ แต่สุดท้ายนายกรัฐมนตรีกลับปฏิเสธ หลายไอเดียที่เจ้าตัวคิดออกมาดังๆ แต่ถูกติติงจากผู้รู้ว่าไม่น่าจะนำไปปฏิบัติได้จริง และเพียงข้ามวันก็ออกมาปฏิเสธว่าไม่ใช่ไอเดียของตน เหมือนน้ำที่กระฉอกไป กระฉอกมา สุดท้ายผลงานเลยไม่เป็นไปตามเป้า
-นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ : ขงเบ๊
“ขงเบ้ง" เป็นกุนซือคนสำคัญในเรื่องสามก๊ก ซึ่งนายธีระเคยนำไปเปรียบเปรยในสภาถึงปัญหาน้ำท่วมที่ผ่านมา ว่าต่อให้ขงเบ้งมาเกิดใหม่ก็แก้ปัญหาไม่ได้ ซึ่งนอกจากนายธีระไม่ใช่คนที่คอยวางแผนให้คนอื่นปฏิบัติตาม ยังจะเป็นคนที่รับคำสั่งจากนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ทั้งงานในกระทรวงเกษตรฯและการบริหารจัดการน้ำ คำว่า “เบ๊" นอกจากแปลว่าทำตามคำสั่งคนอื่นแล้ว ยังมาจากแซ่ของนายบรรหารด้วย
-นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี : ผีเจาะปลอด
เป็นรมว.วิทยาศาสตร์ฯ แต่โด่งดังจากการเตือนภัยว่าน้ำจะท่วมกทม. ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าตื่นตูมเกินเหตุ แต่ท้ายสุดน้ำก็ท่วมกทม.จริงๆ นับจากนั้นนายปลอดประสพจึงมีบทบาทสำคัญในการให้ข้อมูลเรื่องน้ำ อย่างไรก็ตาม การเตือนภัยระยะหลังจะเป็นไปในลักษณะให้ตื่นกลัวมากกว่าตื่นตัว ที่สำคัญด้วยบุคลิกที่เป็นคนพูดเก่งแม้แต่เรื่องที่ไม่ให้พูด
-วาทะแห่งปี 2554 :“น้ำตาที่ไหลไม่ได้มาจากความอ่อนแอ ใครไม่โดนไม่รู้ มันเป็นอารมณ์ร่วม" ของน.ส.ยิ่งลักษณ์
เป็นคำให้สัมภาษณ์ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่อวันที่ 10 พ.ย.ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกำลังเผชิญวิกฤตอย่างหนัก หลังจากไม่สามารถสกัดกั้นไม่ให้น้ำเข้ามาท่วมกทม.รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมต่างๆได้ ผลโพลล์ต่างๆก็ออกมาตรงกันว่าไม่เชื่อถือการทำงานของรัฐบาล นำไปสู่คำถามที่ว่ารัฐบาลจะสามารถประคองตนจนถึงสิ้นปีหรือไม่ ช่วงเวลานั้นไม่ว่าจะไปปฏิบัติงานที่ใด น.ส.ยิ่งลักษณ์มักจะหลั่งน้ำตาออกมา จนหลายคนมองว่าเป็นพฤติกรรมที่สะท้อนภาวะจิตใจที่ไม่ได้ต้องการเล่นการเมืองมาแต่ต้น แต่ถูกพี่ชายผลักดันให้มาทวงความเป็นธรรมให้กับตระกูลชินวัตร