นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการตามข้อเสนอของคณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ(ปคอป.) ที่ให้เยียวยาและฟื้นฟูเหยื่อและผู้เสียหาย ตลอดจนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงหรือความขัดแย้งทางการเมืองทุกฝ่าย รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐ เอกชน สื่อมวลชนต่างๆ ตั้งแต่ก่อนเหตุการณ์วันที่ 19 ก.ย.49 จนถึงเหตุการณ์ชุมนุมช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.53 โดยใช้งบประมาณในการชดเชยเยียวยาจำนวน 2 พันล้านบาท
โดยวางกรอบการช่วยเหลือเป็นเงินชดเชยกรณีเสียชีวิตรายละ 4.5 ล้านบาท, เงินช่วยเหลือสำหรับค่าปลงศพรายละ 2.5 แสนบาท, กรณีทุพพลภาพรายละ 4.5 ล้านบาท, กรณีสูญเสียอวัยวะสำคัญรายละ 3.6 ล้านบาท, กรณีสูญเสียอวัยวะไม่สำคัญรายละ 1.8 ล้านบาท, กรณีได้รับบาดเจ็บไม่สูญเสียอวัยวะแต่ได้รับบาดเจ็บสาหัสรายละ 1.125 ล้านบาท, กรณีได้รับบาดเจ็บไม่สาหัสรายละ 6.75 แสนบาท และกรณีได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยรายละ 2.25 แสนบาท
เงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล กรณีเสียชีวิตโดยเข้ารับรักษาก่อน อัตราเท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 2 แสนบาท, กรณีทุพพลภาพและสูญเสียอวัยวะสำคัญ อัตราเท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 2 แสนบาท และเมื่อต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องอัตราเท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 2แสนบาทต่อปี, กรณีสูญเสียอวัยวะไม่สำคัญ อัตราเท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 1 แสนบาท และเมื่อต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องอัตราเท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 5 หมื่นบาทต่อปี, กรณีได้รับบาดเจ็บสาหัสอัตราเท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 5 หมื่นบาท, กรณีได้รับบาดเจ็บไม่สาหัสอัตราเท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 2 หมื่นบาท, กรณีได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอัตราเท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 1 หมื่นบาท
การชดเชยเยียวยาความสูญเสียทางจิตใจ กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพรายละ 3 ล้านบาท, กรณีศาลมีความสั่ง/คำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้องและได้ถูกควบคุมหรือคุมขังก่อนมีคำพิพากษาเป็นระยะเวลาเกิน 180 วัน รายละ 1.5 ล้านบาท, เกินกว่า 90 วัน แต่ไม่เกิน 180 วัน รายละ 7.5 แสนบาท, กรณีศาลมีคำสั่ง/คำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกแต่ถูกคุมขังเกินกว่าระยะเวลาให้จำคุกเป็นระยะเวลา เกินกว่า 180 วัน รายละ 1 ล่านบาท และเกินกว่า 90 วันแต่ไม่เกิน 180 วัน รายละ 5 แสนบาท