นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี สส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรีเรื่อง ทิศทางราคาพลังงานว่า ที่ผ่านมารัฐบาลมีนโยบายกลับหัวกลับหางคิดจากฐานเสียงจำนวนมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่มีอยู่กว่า 17 ล้านคนอุ้มราคาน้ำมันเบนซิน แต่เมื่อสุดท้ายหมดช่วงโปรโมชั่น 4 เดือน รัฐบาลจะทยอยขึ้นราคาน้ำมันไปจนถึงสิ้นปี ทั้งที่นโยบายของพรรคเพื่อไทย ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในการหาเสียงที่สนามกีฬารัชมังคลากีฬาสถาน ชัดเจนว่าหากเป็นรัฐบาลสิ่งแรกที่จะทำคือแก้ปัญาหาเศรษฐกิจปากท้อง กระชากค่าครองชีพลง ยกเลิกกองทุนน้ำมันฯ ลดราคาน้ำมันเบนซิน 95 ลงลิตรละ 7.50 บาท, เบนซิน 91 ลดลง 6.70 บาท และดีเซล 2.20 บาท จึงอยากถามว่าทำไมรัฐบาลตระบัดสัตย์ต่อประชาชน
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน กล่าวชี้แจงแทนนายกฯ ว่า การปรับโครงสร้างพลังงานของประเทศเป็นเรื่องที่ต้องเดินหน้าทำเพื่ออนาคต ยกตัวอย่างค่าก๊าซเอ็นจีวี กก.ละ 8.50 บาท อยู่ราคานี้มา 10 ปี แล้วไม่เคยปรับขึ้น หรือก๊าซเอ็นจีวีที่เป็นภาระให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องจ่ายเงินอุดหนุนหลายพันล้านบาท ที่สำคัญราคายังต่ำกว่าเพื่อนบ้านอยู่มาก ซึ่งประเทศไทยหากขึ้นสูงสุด กก.ละ 18 บาท แต่ราคาเวียดนาม 46 บาท กัมพูชา และลาว 45 บาท พม่า 36 บาท ทำให้เกิดการลักลอบนำไปขายต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม การยกเลิกกองทุนน้ำมันฯ ที่เคยระบุนั้น แต่ที่ผ่านมาประชาชนเดือดร้อนจากหลายเหตุการณ์ทำให้มาคิดว่าจะช่วยเหลือประชาชนอย่างไร สุดท้ายจึงชะลอออกไป แต่ยืนยันว่าทุกอย่างทำไปเพื่ออนาคตของประเทศ ทั้งการเตรียมยกเลิกเบนซิน 91 เพื่อให้หันมาสนับสนุนเอทานอล
นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า เรื่องพลังงานเป็นเรื่องหนึ่งที่มีการตระบัดสัตย์กับประชาชน ยังไม่รวมเรื่องอื่นๆ ทั้งขึ้นเงินเดือน 1.5 หมื่นบาท หรือค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท จึงอยากถามว่าที่รัฐบาลระบุว่าจะช่วยเหลือแท็กซี่ด้วยบัตรเครดิตพลังงงานที่จะทำให้แท็กซี่จ่ายเงินค่าเอ็นจีวี 8.50 บาท ต่อไปอีก 4 เดือน แล้วหลังจากนั้นรัฐบาลจะมีมาตรการอะไรต่อไป รวมทั้งรถบรรทุกที่ใช้ก๊าซเอ็นจีวี-แอลพีจีรวมเกือบ 3.5 หมื่นคัน รถส่วนบุคคคลอีก 9 แสนคัน ตรงนี้จะมีมาตรการช่วยเหลืออย่างไร
นายพิชัย กล่าวว่า สำหรับแท็กซี่ได้สนับสนุนให้เปลี่ยนจากก๊าซแอลพีจีมาเป็นเอ็นจีวีที่จะประหยัดมากขึ้น โดยจะอนุมัติให้เปลี่ยนไปแล้วโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย 1.5 หมื่นคัน และจะอนุมัติเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกด้านหนึ่งอาจจะมีการพิจารณาให้ขยับราคามิเตอร์ ซึ่งไม่ได้ขึ้นมาตั้งแต่ปี 2551 เป็นเรื่องที่กระทรวงคมนาคมจะเข้าไปดำเนินการ เรารักแท็กซี่ แต่ประเทศต้องเดินไปข้างหน้าก็ต้องทำ ซึ่งในส่วนของภาคขนส่งก็เห็นว่าควรจะปรับเพิ่มราคาก๊าซส่วนจะปรับเพิ่มเท่าไหร่ก็ต้องมาหารือกัน
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาการนำเงินของผู้ใช้น้ำมันเบนซินไปชดเชยราคาแก๊ส หรือดีเซลเป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือไม่มีการถามความยินยอมของผู้ใช้หรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องที่เห็นว่าต้องมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างให้ถูกต้อง ส่วนเรื่องรถบ้าน 9 แสนคันที่หันมาใช้แก๊สนั้นก็เป็นเรื่องที่โครงสร้างไปอุ้มราคาแก๊สในช่วงที่ผ่านมาก็ต้องเข้าไปแก้ไข