นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ชี้แจงต่อกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ที่มีน.ส.รสนา โตสิตระกูล เป็นประธาน ต่อกรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พาดพิงระหว่างการชี้แจงต่อกมธ. ถึงการได้มาซึ่งทรัพย์สินที่ผิดปกติของนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม อาจมีที่มาจากการทุจริตในโครงการถไฟฟ้าสายสีม่วงและรถเมล์ NGV ซึ่งเป็นโครงการที่มีการพิจารณาในสมัยที่นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี
โดยนายอภิสิทธิ์ ชี้แจงว่า ในส่วนของรถไฟฟ้าสายสีม่วงนั้น ส่วนตัวได้เคยพูดคุยกับ ร.ต.อ.เฉลิม ซึ่งระบุว่ากรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่าการคิดรวมภาษีมูลค่าเพิ่มในโครงการนั้นไม่ได้เกี่ยวกับมติครม. แต่ต้องไปดูในขั้นตอนการปฏิบัติ ซึ่งได้ให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตรวจสอบมติครม.ที่ผ่านมาว่าในวงเงินงบประมาณได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มไปด้วยหรือไม่ แต่ได้รับคำยืนยันจากฝ่ายประจำและฝ่ายการเมืองว่าไม่รวมกับภาษีมูลค่าเพิ่ม
อย่างไรก็ดี ในมติครม.เดิมกลับไม่ได้มีการกำหนดให้ชัดเจน ซึ่งในเรื่องนี้บุคคลที่เกี่ยวข้องยอมรับว่าเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่มมีการกำหนดไว้ในข้อเสนอของที่ปรึกษา ดังนั้นเพื่อความรอบคอบ มติครม.ที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรีจึงเขียนชัดเจนว่าให้ปฏิบัติตามมติครม.เดิม หากรวมภาษีมูลค่าเพิ่มก็ใช้วงเงินตามที่กำหนด แต่ถ้าไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มก็ต้องหักงบประมาณออกตามความเป็นจริง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในประเด็นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินมีเรื่องร้องเรียน 2 ประเด็นคืองบประมาณที่ไม่เหมาะสม และข้อกฎหมาย ซึ่งคณะกรรมาธิการป.ป.ช.ของสภาฯ ได้เคยทักท้วงเรื่องนี้ ตนจึงไม่นำเข้าครม. แต่กระทรวงคมนาคมยังชี้แจงว่าปกติ จึงได้นำส่งเรื่องนี้ต่อไปให้สำนังานอัยการสูงสุดเพื่อดูสัญญาว่ามีปัญหาตามข้อกฎหมายหรือไม่ พร้อมส่งให้กระทรวงคลัง สำนักงบประมาณดูรายละเอียด ซึ่งได้รับการยืนยันว่าไม่มีปัญหา จึงยอมให้มีการนำโครงการดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของครม. หลังจากนั้นก็เป็นขั้นตอนการดำเนินการของกระทรวงที่เป็นผู้บริหารโครงการ