นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ออกมาแถลงว่าในสมัยประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่สามารถยื่นเรื่องการออก พ.ร.ก. 4 ฉบับ ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้นั้นอาจทำให้เกิดความสับสนได้ เพราะคำแถลงดังกล่าวเป็นการให้ข้อมูลไม่ตรงกับรัฐธรรมนูญโดยสิ้นเชิง ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อใครทั้งสิ้น เพราะกระบวนการต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ
"การที่ประธานรัฐสภาจะหลีกเลี่ยงประการหนึ่งประการใดอาจถูกกล่าวหาได้ว่าปฏิบัติหน้าที่มิชอบหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ซึ่งจะเข้าข่ายประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และจะไม่เป็นผลดีต่อการดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภาด้วย" นายวิรัตน์ กล่าว
ด้านนายธนา ชีรวินิจ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่บทบัญญัติรัฐธรรมนูญเขียนไว้อย่างชัดเจน ประธานรัฐสภาควรกลับไปทบทวนการให้ความเห็นทางกฎหมาย เพราะจะกระทบความเชื่อมั่นต่อรัฐสภาของประชาชน และการออก พ.ร.ก.เป็นเรื่องฉุกเฉินเร่งด่วน และจะต้องมีการตีความว่า พ.ร.ก.มีความถูกต้องหรือไม่ จึงให้อำนาจของสภาผู้แทนราษฎรในการส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ ประธานรัฐสภาต้องส่งเรื่องถึงศาลรัฐธรรมนูญใน 3 วัน เมื่อส่งไปแล้วก็ต้องรอการพิจารณาจากศาลรัฐธรรมนูญทันที
ทั้งนี้ ฝ่ายค้านจะยื่นคัดค้าน พ.ร.ก.รวม 2 ฉบับ คือ พ.ร.ก.โอนหนี้ และ พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าไม่ได้เป็นความจำเป็นเร่งด่วนอันหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การออก พ.ร.ก.มีนัยสำคัญบางอย่าง เพราะสามารถผ่านได้ด้วยเสียงข้างมากของรัฐบาลอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ได้เห็นร่าง พ.ร.ก.ดังกล่าว