นายกฯ มั่นใจครม.ปู 2 ไม่ผิดฝาผิดตัว ยันคุณสมบัติเหมาะสม-มุ่งฟื้นฟูศก.

ข่าวการเมือง Thursday January 19, 2012 10:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเดินทางไปเยือนฟิลิปปินส์อย่างเป็นทางการในเช้าวันนี้ถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อตอบแทนบุญคุณว่า "ไม่มีหรอกค่ะ เราดูที่ตามความเหมาะสมและความลงตัวของคุณสมบัติของคนที่เข้าร่วมครม."

พร้อมยืนยันว่า มั่นใจว่าการปรับ ครม.ปู 2 ไม่ผิดฝาผิดตัว โดยระบุว่าอยากให้สื่อลองดูเทียบในแต่ละกระทรวงดู ซึ่งส่วนใหญ่แล้วบางคนอาจจะไม่คุ้นหน้าคุ้นตา แต่หากดูตามคุณสมบัติและวุฒิการศึกษาก็จะเห็นว่าตรงกับงาน เพราะต้องการปรับเพื่อความลงตัวและเน้นเข้าสู่หมวดฟื้นฟูและกอบกู้เศรษฐกิจโดยเร็ว

"การปรับ ครม.ครั้งนี้ถือว่าทำงานมาระยะหนึ่ง ซึ่งหลังจากที่ทำงานไปเรารู้ว่าขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการฟื้นฟู ก็เลยปรับครม.เพื่อความลงตัว แค่นั้นเองไม่มีประเด็นอื่น ส่วนจะทำให้มีปัญหากับคนที่ถูกปรับออกหรือไม่นั้น ไม่มี เพราะเมื่อเวลาผ่านไปบางทีก็ต้องการบุคลากรมาช่วยที่เหมาะและตรงกับขั้นตอนของการฟื้นฟู และเร่งในการช่วยกอบกู้เศรษฐกิจ" นายกฯ กล่าว

ส่วนจะมีการพิจารณาปรับ ครม.อีกครั้งหรือไม่เมื่อใดนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องขอเวลาให้ ครม.ชุดใหม่ได้ทำงานก่อน ขอให้ประชาชนสบายใจทุกอย่างเราจะพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้ ครม.ชุดนี้เดินหน้าไป ที่สำคัญจะเน้นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และเร่งนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ แกนนำเสื้อแดงเข้ามาดำรงตำแหน่งรมช.เกษตรและสหกรณ์ว่า ที่ให้ดูแลงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพราะนายณัฐวุฒิมีความเข้าใจในเรื่องปัญหาของพี่น้องโดยเฉพาะชาวเกษตรกร และจริงๆนายณัฐวุฒิเป็นผู้มีความรู้

ขณะที่กรณีของนางนลินี ทวีสิน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่โดนแบล็กลิสต์จากประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องขอตรวจสอบในข้อเท็จจริง แต่ในส่วนของประเทศไทยตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญไม่ติดขัดด้านคุณสมบัติ ซึ่งต้องให้นางนลินีออกมาชี้แจงอีกครั้งหนึ่ง

สำหรับการปรับเปลี่ยนรมว.คลังนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แทบจะไม่ได้เปลี่ยนการทำงานเลย เพราะโดยหลักแล้วนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี ดูแลงานที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจทั้งหมดมาอยู่แล้ว แต่จะได้รับผิดชอบงานตรงมากขึ้น เพราะช่วงนี้ต้องการให้เข้ามาช่วยดูด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากต้องเร่งฟื้นฟู ก็คงจะทำให้ควบคู่กับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) ได้อย่างใกล้ชิด

และการโยก พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ซึ่งเป็นเตรียมทหาร 10 มาเป็น รมว.กลาโหม อาจจะทำให้ทางทหารไม่พอใจนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงต้องมีการทำความเข้าใจกัน แต่ พล.อ.อ.สุกำพลก็เป็นทหารมา มีความเข้าใจทางด้านทหารอยู่แล้ว เราไม่ได้ให้ฝ่ายพลเรือนมาเป็นรมว.กลาโหม

ขณะเดียวกัน พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ก็ดูแลความมั่นคงและดูแลกระทรวงกลาโหม นั่นก็แปลว่านโยบายทุกอย่างไม่เปลี่ยนแปลง แต่อาจจะมีคนมาดูแลใกล้ชิดมากขึ้นในรายละเอียด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ