นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือมอบหมายภารกิจการรับผิดชอบให้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ดูแลหน่วยงานในสังกัดทั้ง 4 กรม และ 3 รัฐวิสาหกิจ ประกอบด้วย กรมพัฒนาที่ดิน กรมวิชาการเกษตร กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ องค์การสะพานปลา องค์การสวนยาง และสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางเรียบร้อยแล้ว โดยเชื่อมั่นว่า รมช.เกษตรฯ มีความตั้งใจที่จะปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ
นอกจากนี้ ยังเชื่อว่า รมช.เกษตรฯ จะเป็นตัวเชื่อมระบบรัฐสภาในฐานะสภาผู้แทนราษฏรกับการดำเนินงานของกระทรวงได้อีกทางหนึ่ง เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนการทำงานให้เป็นตามนโยบายของรัฐบาลได้
และหากนายณัฐวุฒิ จะเสนอแนะประเด็นปัญหา หรือหารือแนวทางการดำเนินงานของกระทรวงเกษตรฯ นั้นก็ยินดี ซึ่งพร้อมเปิดห้องทำงานตลอดเวลาด้วยเช่นกัน รวมถึงยังได้มอบนโยบายให้แก่หน่วยงานในสังกัดด้วยว่ากรณีที่ รมช.เกษตรฯ ลงพื้นที่ตรวจราชการในจุดใด แม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับหน่วยงานที่รัฐมนตรีช่วยฯกำกับดูแลอยู่ ก็จะต้องให้ความร่วมมือหรือประสานงานในส่วนที่เกี่ยวข้องได้เช่นกัน
ด้านนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า จะเร่งหารือกับอธิบดีของแต่ละหน่วยงานโดยเร็วเพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับงานที่ได้รับมอบหมายจาก รมว.เกษตรฯ ทั้งแผนงานโครงการที่สำคัญของแต่ละหน่วยงาน รวมถึงประเด็นปัญหาต่างๆ เพื่อกำหนดเป็นนโยบายให้การดำเนินงานต่างๆ เกิดความต่อเนื่องและแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะปัญหาราคายางพาราซึ่ง ครม.ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้มีมติเห็นชอบอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมจำนวน 1.5 หมื่นล้านบาท สำหรับใช้ดำเนินการรับซื้อยางพาราเก็บเข้าสต๊อกของรัฐ เพื่อแก้ปัญหาราคาตกต่ำในช่วงที่ผ่านมา และยกระดับราคายางพาราให้อยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 120 บาท
โดยใน 1 — 2 วันนี้จะเรียกประชุมหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯที่เกี่ยวข้อง ธ.ก.ส. และเกษตรกรผู้ปลูกยางมาประชุมร่วมกันเพื่อเร่งผลักดันมาตรการดังกล่าวให้เกิดขึ้นในทันที
"ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือกังวลแต่อย่างใด กลับพร้อมที่จะทำงานตามที่รัฐบาลได้มอบหมายอย่างเต็มความสามารถ และพร้อมจะสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกระทรวงพาณิชย์ที่ดูแลเรื่องการตลาด และกระทรวงการคลังที่จะจัดสรรงบประมาณดำเนินโครงการต่างๆ"นายณัฐวุฒิ กล่าว