นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี สส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ในฐานะโฆษก ครม.เงา แถลงว่า ที่ประชุมครม.เงา ได้มีการพิจารณาแนวคิดที่รัฐบาลจะลดสัดส่วนหุ้นของกระทรวงการคลังใน บมจ.ปตท.(PTT)ไปให้กองทุนวายุภักษ์ถือแทนเพื่อเปลี่ยนสถานะจากการเป็นรัฐวิสาหกิจ โดยมองการลดสัดส่วนหุ้นภาครัฐในรัฐวิสาหกิจเพื่อเปิดทางให้รัฐบาลก่อหนี้เพื่อเพิ่มนั้น ทำให้หนี้สาธารณะลดลงเฉพาะตัวเลขเท่านั้น
ทั้งนี้ ครม.เงาให้มอบหมายให้รัฐมนตรีเงาของกระทรวงที่เกี่ยวข้องไปศึกษาว่าในช่วง 5-6 เดือนที่จะเกิดขึ้นตัวเลขหนี้สาธารณะที่แท้จริงจะเป็นจำนวนเท่าไร หลังจากมีการตกแต่งทำบัญชีเพื่อกู้เพิ่ม และต้องติดตามดูว่าการปรับให้กองทุนวายุภักษ์เข้าไปถือแทนนั้นใครมีส่วนได้ส่วนเสียในครั้งนี้บ้าง
“แค่เริ่มต้นก็เสียวแล้วมีการล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าแบงก์ชาติ ตอนนี้กำลังเอาสมบัติชาติไปขายจึงต้องจับตาดูเป็นพิเศษว่าที่อ้างว่าต้องการขยับเพื่อกู้หนี้ได้เพิ่มเป็นการเอาสมบัติชาติไปขายหรือไม่"นายอรรถวิชช์ กล่าว
ด้านนายสรรเสริญ สะมะลาภา ส.ส.กทม. พรรค ปชป.ในฐานะรมช.คลังเงา กล่าวว่า ความพยายามลดหนี้สาธารณะเป็นเพียงข้ออ้างเพราะรัฐบาลยังมีเพดานในการกู้อีกมากถึงประมาณ 2 ล้านล้านบาท ครั้งนี้รัฐบาลเพียงแค่เลี่ยงบาลีเท่านั้น หากจะมีการลดหนี้สาธารณะเพื่อจะนำไปสู่การกู้ใหม่ก็ต้องขอดูแผนการกู้ว่าทำไมถึงกู้มากมาย และปตท.ก็สามารถดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว เพราะรวยมาก จึงน่าจะมีวาระซ่อนเร้นมากกว่าในการลดหนี้สาธารณะ
“สิ่งที่น่าสังเกตคือมีความพยายามนำกองทุนวายุภักษ์เข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะเป็นโอกาสให้หุ้น 17 เปอร์เซนต์นี้ไปอยู่ในมือนายทุน เราไม่เชื่อใจรัฐบาลชุดนี้เพราะมีความพยามมาตั้งแต่แรกที่จะฮุบปตท.จากมือประชาชนไปสู่นายทุน ภาระของปตท.ไม่ได้มีอยู่แค่ดูแลด้านพลังงาน แต่มีการลงทุนอีกหลายอย่าง เช่น โครงการท่อก๊าซ 3 หมื่นล้านบาท หรือการลงทุนร่วมไทย-เขมร ในโครงการแหล่งก๊าซธรรมชาติ"นายสรรเสริญ กล่าว