เฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้าThaiKhuFah รายงานว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการจัดงาน Thailand Night ที่เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส หลังเสร็จสิ้นการประชุม World Economic Forum (WEF) ครั้งที่ 42 ว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยมีทั้งกลุ่มนักลงทุนเดิมและกลุ่มผู้ที่สนใจเข้าลงทุนใหม่ และมั่นใจว่าจากความสำเร็จนี้จะทำให้มีผู้ตอบรับเข้าร่วมประชุม ประจำปี World Economic Forum on East Asia ที่จะจัดในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 30 พ.ค -1 มิ.ย นี้ ซึ่งการประชุมดังกล่าวเชื่อว่าจทำให้มีผู้สนใจลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น เพราะไทยมีจุดแข็งและมีศักยภาพพร้อมในการลงทุน
ทั้งนี้ได้ให้ความมั่นใจนักธุรกิจต่างประเทศถึงศักยภาพการสงเสริมการลงทุนและการดำเนินธุรกิจในไทยว่าไทยมีปัจจัยพื้นฐานทเข้มแข็งและมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ สถานะทางการเงินการคลังปัจจบันของไทยอยู่ในภาวะที่ดีเยี่ยม มีหนี้สาธารณะต่อ GDP ประมาณร้อยละ 40 เงินทุนสำรองระหว่างประเทศสูงประมาณ 180 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็น 4 เท่าของหนี้ต่างประเทศ โดยรัฐบาลยึดมั่นในการส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชน โดยการสร้างสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจที่เสรีและแข่งขันได้ รัฐบาลจะลดภาษีรายได้ของบริษัท Corporate Income Tax (ภาษีเงินได้นิติบุคคล) ลงเหลือร้อยละ 20 ในปีหน้า
นายกรัฐมนตรี ได้ยืนยันกับนักลงทุนที่สนใจมาลงทุนในไทยถึงเรื่องความมั่นคงทางการเมือง และประชาธิปไตยของไทยว่า การเลือกตั้งเมื่อปีที่ผ่านมาทีมีความสำคัญและทุกภาคส่วนยอมรับผลการเลือกตั้ง แสดงให้เห็นว่าประชาชนไทยปรารถนที่จะสร้างความปรองดองและประชาธิปไตยที่แท้จริง โดยรัฐบาลจะสนับสนุนการดำเนินงานสู่การสร้างปรองดองแห่งชาติ ยึดในนิติรัฐ และส่งเสริมความเป็นเอกภาพของสังคมซึ่งพื้นฐานที่เข้มแข็งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน